กรุงเทพฯ 30 ส.ค. – กรมวิชาการเกษตรเปิดตัวอ้อยโรงงานพันธุ์ใหม่ “กวก. นครสวรรค์ 1” ให้ความหวาน ผลผลิตน้ำตาลสูง สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร ทรงกอตั้งตรง เก็บเกี่ยวได้ง่ายทั้งแรงงานคนและเครื่องจักรกล ชูเป็นพันธุ์ทางเลือกใหม่ สร้างความยั่งยืนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน ปรับปรุงพันธุ์อ้อยเพื่อให้ได้พันธุ์ที่ให้ผลผลิตและความหวานสูง เหมาะสมกับพื้นที่ปลูกในดินร่วน ร่วนเหนียว และดินเหนียวเขตน้ำฝน เพื่อเป็นทางเลือกด้านพันธุ์ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นที่ดังกล่าว โดยอ้อยพันธุ์ใหม่ล่าสุดดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ตั้งแต่ปี 2553-2565 รวมระยะเวลา 12 ปี จนได้อ้อยพันธุ์ “กวก. นครสวรรค์ 1” ซึ่งเป็นอ้อยโรงงานที่มีความหวานและผลผลิตน้ำตาลสูง ได้จากการผสมพันธุ์ระหว่าง พันธุ์แม่ Q76 และพันธุ์พ่อ CP63-588
ลักษณะเด่นของอ้อยพันธุ์ “กวก. นครสวรรค์ 1” คือ มีความหวานสูงถึง 15.77 ซีซีเอส สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 และพันธุ์ขอนแก่น 3 ให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.82 ตันซีซีเอส/ไร่ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 และให้ผลผลิตอ้อย 18.02 ตัน/ไร่ มีทรงกอที่ตั้งตรงทำให้สะดวกต่อการเก็บเกี่ยวด้วยแรงงานคนหรือใช้เครื่องจักร ดังนั้น อ้อยพันธุ์นี้จึงเป็นทางเลือกด้านพันธุ์ให้กับชาวไร่อ้อยอีกพันธุ์หนึ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกอ้อยที่เป็นดินร่วน ร่วนเหนียว และดินเหนียวเขตน้ำฝน ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สุพรรณบุรี และนครราชสีมา
ทั้งนี้ อ้อยเป็นพืชอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ปัจจุบันอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายนับเป็นสินค้าภาคเกษตรที่มีมูลค่าโดยรวมกว่า 2 แสนล้านบาท และผลผลิตน้ำตาลมากกว่า 2 ใน 3 ส่งออกทำรายได้ให้กับประเทศปีละหลายล้านบาท ที่สำคัญอ้อยเป็นพืชที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน นอกจากการแปรรูปเป็นน้ำตาลทรายแล้ว ยังสามารถใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายชนิด รวมทั้งนำไปต่อยอดสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ซึ่งการยกระดับผลผลิตและปริมาณอ้อยเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุดคือ “พันธุ์อ้อย” ดังนั้น การเลือกใช้พันธุ์อ้อยได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่นอกจากจะยกระดับผลผลิตและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรแล้ว ยังสามารถพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทั้งระบบต่อไปได้
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า การปรับปรุงพันธุ์อ้อยเป็นกระบวนการต้นน้ำในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ที่ใช้ระยะเวลานาน 10-12 ปี ถึงจะได้อ้อยพันธุ์ดี ซึ่งพันธุ์อ้อยที่เกษตรกรปลูกในปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์ขอนแก่น 3 และ LK92-110 เป็นพันธุ์ที่ใช้มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ทำให้พบการระบาดของโรคมากขึ้น โดยการใช้พันธุ์อ้อยพันธุ์ใดพันธุ์หนึ่งในสัดส่วนที่มากเกินไป หรือเรียกว่าใช้พันธุ์เชิงเดี่ยว จะก่อให้เกิดความเสี่ยง เนื่องจากศัตรูพืชมีการปรับตัวจนสามารถเข้าทำลายอ้อยพันธุ์นั้นได้ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมยังมีส่วนสำคัญที่ทำให้พันธุ์อ้อยที่เคยให้ผลผลิตสูงมีผลผลิตลดลง
สำหรับเกษตรกรที่สนใจอ้อยพันธุ์ กวก. นครสวรรค์ 1 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ โทรศัพท์ 0 5624 1019 .-สำนักข่าวไทย