หลายเมืองใหญ่ของจีนยกระดับมาตรการคุมโควิด

ปักกิ่ง 30 ส.ค. – หลายเมืองใหญ่ของจีนประกาศยกระดับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในวันนี้ เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นที่สั่งปิดการทำงานของภาคธุรกิจมากขึ้น และเมืองต้าเหลียนที่สั่งล็อกดาวน์ประชาชนหลายล้านคน ทำให้โอกาสฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนยังไม่แน่นอนและการเปิดภาคเรียนใหม่ต้องล่าช้าออกไป


สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เขตหลงหัว ซึ่งมีประชากร 2.5 ล้านคน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น สั่งปิดสถานบันเทิงและตลาดค้าส่งหลายแห่งในวันนี้ ทั้งยังสั่งระงับการจัดงานขนาดใหญ่อีกด้วย ทางการท้องถิ่นของเขตหลงหัวระบุว่า ประชาชนต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบในรอบ 24 ชั่วโมงก่อนเข้าที่พักอาศัย ส่วนร้านอาหารต้องจำกัดจำนวนลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารในร้านไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุที่นั่ง โดยที่ทางการจะยกเลิกการใช้มาตรการเหล่านี้ในวันเสาร์ ทั้งนี้ มาตรการของเขตหลงหัวคล้ายกับมาตรการที่ใช้ในอีก 3 เขตในเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นที่ประกาศใช้มาตรการต่าง ๆ ไปเมื่อวันจันทร์เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 6 ล้านคน รวมถึงทำให้การเปิดภาคเรียนใหม่ต้องล่าช้าออกไป

ในขณะเดียวกัน เมืองต้าเหลียน ซึ่งเป็นเมืองท่าเรือสำคัญในการนำเข้าถั่วเหลืองและสินแร่เหล็กของมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันอาทิตย์ ทำให้ประชาชนราว 3 ล้านคนที่อาศัยในย่านใจกลางเมืองได้รับผลกระทบ โดยที่ทางการท้องถิ่นอนุญาตให้แต่ละครัวเรือนส่งตัวแทนออกนอกบ้านได้เพียงวันละ 1 คนเพื่อไปซื้อของใช้ในร้านค้าหรือทำกิจธุระจำเป็น นอกจากนี้ ยังสั่งให้ประชาชนที่ไม่จำเป็นต้องเข้าสำนักงานทำงานจากที่บ้าน และสั่งให้บริษัทต่าง ๆ ลดจำนวนพนักงานที่ต้องทำงานในสำนักงานให้เหลือเท่าที่จำเป็น


ทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1,717 คนรอบวันจันทร์ แบ่งเป็นผู้ป่วยที่มีอาการ 349 คน และผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 1,368 คน โดยพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เป็นจำนวนมากที่เขตปกครองตนเองทิเบต มณฑลเสฉวน และมณฑลชิงไห่ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 6.25 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 24,600 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง