ศฉส.กทม. เตรียมแผนรองรับโควิด-19

กทม. 23 ส.ค.- ศฉส.กทม. ย้ำการสื่อสารกับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เตรียมแผนรองรับโควิด-19 เปลี่ยนผ่านสู่ Post-Pandemic


(23 ส.ค. 65) ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช  รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพกรุงเทพมหานคร Bangkok Health Emergency Operations Center (ศฉส.กทม. : BHEOC) ครั้งที่ 2/2565 โดยมีคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

ในที่ประชุม ได้มีการหารือเกี่ยวกับการวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ภาวะ Post-Pandemic เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของกรุงเทพมหานคร กรณีกระทรวงสาธารณสุข เตรียมอนุญาตให้โรงพยาบาลทุกสังกัดและคลินิกเวชกรรม สามารถจัดซื้อยาต้านไวรัสจากผู้ผลิตเองได้แล้ว ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. นี้ เป็นต้นไป พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นย้ำการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสทุกคน ซึ่งการใช้ยาต้านไวรัส อยู่ในการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งควรให้เฉพาะกลุ่มที่มีอาการ หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรง ส่วนการจัดบริการด้านการรักษาพยาบาล จะพิจารณาตามอาการผู้ป่วย


ในส่วนของการพิจารณาการแยกกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 เหลือ 5+5 วัน ซึ่งทางคณะกรรมการวิชาการกำลังประชุมหารือ โดยจะเข้าที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข ในวันจันทร์หน้าและจะออกเป็นมาตรการต่อไป โดยที่ประชุมเห็นว่าในประเด็นของการกักตัว 5+5 วัน จะต้องสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ปฏิบัติตนได้ถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในที่สาธารณะ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อม หาก ศบค.ชุดใหญ่ จะพิจารณาประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ ดังนั้น เมื่อทุกอย่างจะผ่อนคลายลงก็อาจจะมีการเปิดมาตรการต่าง ๆ ให้เสรีมากขึ้น และลดระดับมาอยู่ที่การเฝ้าระวัง ซึ่งจะต้องมีการสื่อสารและทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้าใจว่ายังคงต้องป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ยังได้เตรียมแผนรองรับหากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องกระตุ้นให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมในการรับมือด้วย

ในส่วนของสำนักการแพทย์ ได้รายงานข้อมูลผู้ป่วยที่มีการใช้กัญชาที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. – 22 ส.ค. 65 พบว่า ผู้ป่วยอายุเฉลี่ย 32 ปี อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ใจสั่น แน่นหน้าอก คอแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน โดยที่ผู้ป่วยร้อยละ 60 ได้รับกัญชาผ่านการรับประทาน รองลงมาคือการสูบกัญชา ซึ่งใช้ส่วนที่เป็นใบ ลำต้น และช่อดอกของกัญชา และผู้ป่วย ร้อยละ 60 เป็นการใช้กัญชาครั้งแรก และมีบางส่วนที่ใช้มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยที่ประชุม ขอให้สำนักงานเขต ติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับการใช้กัญชา รวมทั้งเฝ้าระวังโรคมือเท้าปาก โรคไข้เลือดออก และโรคอื่น ๆ ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง