TNA News-Now-Next: “แคชเมียร์” ชนวนสงครามอินเดีย-ปากีสถาน

Barbed wire in Srinagar, Indiaรั้วลวดหนามที่ศรีนคร เมืองหลวงของรัฐจัมมูและแคชเมียร์

แคชเมียร์ 24 เม.ย.- เหตุกลุ่มคนร้ายกราดยิงนักท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดียเมื่อ 2 วันก่อน เป็นเหตุร้ายครั้งล่าสุดในภูมิภาคแถบเทือกเขาหิมาลัยที่เป็นพื้นที่ชนวนสงครามระหว่างอินเดียและปากีสถานตั้งแต่เมื่อครั้งได้รับเอกราชจากอังกฤษ


แดนสวรรค์เปื้อนเลือด

เมืองพาฮัลกัม (Pahalgam) ในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม อากาศเย็นสบาย ห่างออกไปไม่ถึง 5 กิโลเมตรเป็นหุบเขาไบซาราน (Baisaran Valley) ที่มีทุ่งหญ้าบนยอดเขาเขียวขจี รายล้อมไปด้วยป่าสน สวยงามจนได้รับสมญานามว่า มินิสวิตเซอร์แลนด์


Shutdown in Indian Kashmir's Pahalgam after militant attack
เมืองพาฮัลกัม

แดนสวรรค์แห่งนี้ต้องกลายเป็นแดนเปื้อนเลือด เมื่อกลุ่มคนร้ายกราดยิงใส่กลุ่มนักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 22 เมษายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน เป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาล 1 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 คน ตำรวจอินเดียระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 ใน 3 คน เป็นชาวปากีสถาน

Funeral for victims of militant attack in Kashmir
พิธีศพนักท่องเที่ยว

เหตุการณ์นี้เป็นเหตุร้ายครั้งรุนแรงที่สุดของอินเดีย นับจากเหตุกลุ่มติดอาวุธในปากีสถานก่อการร้ายพร้อมกันหลายจุดในนครมุมไบ เมืองหลวงเชิงพาณิชย์ของอินดียเป็นเวลา 4 วันเมื่อวันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2551 ครั้งนั้นมีคนถูกสังหารมากถึง 175 คน และคนได้รับบาดเจ็บมากกว่า 300 คน

รู้จักกลุ่มอ้างตัวก่อเหตุ


กลุ่มต่อต้านแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) หรือแนวร่วมต่อต้าน (The Resistance Front) หรือทีอาร์เอฟ (TRF) โพสต์สื่อสังคมออนไลน์อ้างตัวว่าเป็นผู้ลงมือ สาเหตุเพราะไม่พอใจที่มี “คนนอก” เข้ามาตั้งรกรากในภูมิภาคนี้มากกว่า 85,000 คน จนลักษณะทางประชากรศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป

Indian police release sketches of suspects involved in Kashmir attack
ตร.อินเดียโพสต์ภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัย

ข้อมูลของ South Asia Terrorism Portal ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการในอินเดียระบุว่า ทีอาร์เอฟปรากฏขึ้นในปี 2562 เชื่อว่าแยกตัวออกมาจากกลุ่มลัชการ์-อี-ไทบา (Lashkar-e-Taiba) หรือแอลอีที (LeT) ในปากีสถานที่ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ จากการก่อเหตุร้ายในอินเดียและชาติตะวันตก รวมถึงการก่อการร้ายที่นครมุมไบในปี 2551 ที่ผ่านมาทีอาร์เอฟไม่ได้ก่อเหตุใหญ่ และก่อเหตุโดยมีอิสระบางประการ แต่ยังคงรับคำสั่งจากแอลอีที

กระทรวงมหาดไทยอินเดียแถลงต่อรัฐสภาในปี 2566 ว่า ทีอาร์เอฟพัวพันกับการวางแผนสังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและพลเรือนในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการรับสมัครสมาชิกติดอาวุธ  ลักลอบค้าอาวุธและยาเสพติดข้ามพรมแดนอินเดีย-ปากีสถาน หน่วยข่าวกรองอินเดียเปิดเผยว่า กลุ่มนี้ได้ใช้การข่มขู่ทางออนไลน์กับกลุ่มสนับสนุนอินเดียตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ปากีสถานปฏิเสธว่า ไม่ได้สนับสนุนและให้เงินทุนกลุ่มติดอาวุธในแคชเมียร์ โดยให้เพียงกำลังใจและการสนับสนุนทางการทูตเท่านั้น

แคชเมียร์ ดินแดนชนวนสงคราม

แคชเมียร์หรือกัศมีร์ เป็นภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของอนุทวีปอินเดีย ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ของ 3 ประเทศ คือ อินเดีย ปากีสถานและจีน โดยเป็นชนวนสงครามอินเดีย-ปากีสถานโดยตรงมาแล้ว 2 ครั้ง

ป้ายชื่อประเทศอินเดียและปากีสถาน (ไม่ทราบเวลาและสถานที่)

ปมความขัดแย้งเกิดขึ้นหลังจากอังกฤษให้เอกราชแก่อินเดียและปากีสถานในปี 2490 โดยมีการขีดเส้นแบ่งประเทศ ส่วนแคชเมียร์ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่มีผู้ปกครองเป็นมหาราชาฮินดู อังกฤษให้เลือกว่าจะเข้าร่วมกับประเทศใดประเทศหนึ่งหรือคงความเป็นเอกราช มหาราชาได้ตัดสินใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย เนื่องจากถูกกลุ่มชนเผ่าในปากีสถานบุกรุกและประชาชนก่อกบฏ นำมาซึ่งสงครามอินเดีย-ปากีสถานครั้งแรก สหประชาชาติเข้าไกล่เกลี่ยจนกระทั่งมีการหยุดยิงในปี 2492 และมีการแบ่งแคชเมียร์ โดยให้อินเดียปกครอง 2 ใน 3 ส่วน ประกอบด้วยหุบเขาแคชเมียร์ จัมมู และลาดักห์ ส่วนปากีสถานปกครอง 1 ใน 3 ประกอบด้วยอะซัด แคชเมียร์และกิลกัต-บัลติสถาน ต่อมาในช่วงที่จีนและอินเดียทำสงครามเป็นเวลา 1 เดือน ในปี 2505 จีนได้ยึดครองพื้นที่ที่ส่วนใหญ่ไม่มีคนอยู่อาศัย

อินเดียและปากีสถานทำสงครามใหญ่แย่งชิงแคชเมียร์อีกครั้งในปี 2508 แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานภาพของดินแดนแห่งนี้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด ส่วนการทำสงครามครั้งที่ 3 ระหว่างอินเดียและปากีสถานในปี 2514 นำมาซึ่งการตั้งประเทศบังกลาเทศ

แคชเมียร์ในส่วนของอินเดียมีประชากร 7 ล้านคน ในจำนวนนี้เกือบร้อยละ 70 เป็นมุสลิม กลุ่มติดอาวุธที่ต้องการแยกตัวเป็นเอกราชหรือต้องการรวมกับปากีสถานเริ่มเคลื่อนไหวก่อเหตุไม่สงบในแคชเมียร์ส่วนของอินเดียตั้งแต่ปี 2532 อินเดียตอบโต้ด้วยการส่งกำลังทหารจำนวนมากไปปราบปราม และมีคนล้มตายมากมาย อินเดียกล่าวหาปากีสถานว่า ให้อาวุธและให้การฝึกฝนกลุ่มติดอาวุธ แต่ปากีสถานปฏิเสธ

เปลี่ยนดินแดนขัดแย้งเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ปี 2562 รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีและพรรคภารติยะชนตะที่ปกครองอินเดียมาตั้งแต่ปี 2557 ได้ยกเลิกมาตราในรัฐธรรมนูญก่อตั้งประเทศที่ให้สถานภาพปกครองตนเองแก่ดินแดนแห่งนี้ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้แคชเมียร์เป็นส่วนหนึ่งของประเทศได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น

ทางการอินเดียอ้างว่า สถานการณ์ความรุนแรงในแคชเมียร์เบาบางลงในช่วงหลายปีมานี้ มีการก่อเหตุร้ายขนาดใหญ่น้อยลง และมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนมากขึ้น รัฐบาลโมดีชูเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ว่า สามารถนำสันติภาพและการพัฒนามาสู่ดินแดนแห่งนี้ อย่างไรก็ดี ยังคงมีรายงานเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและพลเรือนถูกสังหาร

ผลพวงจากเหตุการณ์ร้ายล่าสุด

ทางการอินเดียปิดเมืองพาฮัลกัมตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน หนึ่งวันหลังเกิดเหตุร้าย นอกจากนี้ยังได้ประกาศมาตรการหลายอย่างเพื่อลดระดับความสัมพันธ์กับปากีสถาน เช่น ระงับการใช้สนธิสัญญาแม่น้ำสินธุปี 2503 (Indus Waters Treaty) ที่กำหนดการใช้แม่น้ำร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ปากีสถานที่อยู่ปลายน้ำได้รับผลกระทบ เนื่องจากต้องใช้น้ำในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำและการชลประทาน

India closes land border crossing with Pakistan following Kashmir attack
อินเดียปิดด่านทางบกกับปากีสถาน

อินเดียยังได้ปิดด่านข้ามแดนทางบกระหว่าง 2 ประเทศที่มีอยู่เพียงแห่งเดียว และกำหนดให้ผู้ที่ข้ามมาในอินเดียแล้วต้องกลับออกไปก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม ประกาศให้ที่ปรึกษาด้านกลาโหมทั้งหมดในคณะข้าหลวงใหญ่ปากีสถานประจำอินเดียเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา และต้องออกจากอินเดียภายใน 1 สัปดาห์ ขณะเดียวกันอินเดียจะเรียกตัวคณะที่ปรึกษาด้านกลาโหมในปากีสถานกลับประเทศ และลดจำนวนคณะข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำปากีสถานจาก 55 คน ลงเหลือ 30 คน นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านปากีสถานในหลายพื้นที่ของอินเดีย

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียได้เรียกประชุมทุกพรรคการเมืองรวมทั้งพรรคฝ่ายค้านในวันนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเชบาซ ชารีฟของปากีสถานได้เรียกประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติในเช้าวันนี้ หลังจากอินเดียประกาศมาตรการกับปากีสถาน

India's PM posts after militant attack in Kashmir
นายกฯ อินเดียโพสต์ประณาม

Final Thought: จนถึงขณะนี้รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจบานปลาย แนวโน้มขึ้นกับว่า แต่ละฝ่ายจะใช้มาตรการตอบโต้กันอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ทั้ง 2 ประเทศที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองยังไม่สามารถใช้วิถีทางทางการทูตในการแก้ไขความขัดแย้งที่ดำเนินมาร่วม 80 ปี และปะทุขึ้นเป็นครั้งคราว จนกว่าจะมีทางออกที่ยั่งยืน.-814.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]