TNA News-Now-Next: สำรวจความเปลี่ยนแปลง 1 ปีหลังฮามาสบุกอิสราเอล

protester shows sign stop the war

เยรูซาเลม 3 ต.ค.- นับจากสมาชิกกลุ่มฮามาสในกาซาข้ามพรมแดนเข้ามาโจมตีอิสราเอลโดยไม่ทันตั้งตัวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 มาจนถึงขณะนี้สถานการณ์ความขัดแย้งได้ขยายวงกว้าง คู่ขัดแย้งกับอิสราเอลมีจำนวนเพิ่มขึ้น และยังไม่มีวี่แววว่าความขัดแย้งจะคลี่คลายลง


เว็บไซต์สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการของสหรัฐที่เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2464 ได้สำรวจความเปลี่ยนแปลงใน 4 ด้านสำคัญที่เกิดขึ้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมาดังนี้ 

ปีแห่งการคิดทบทวนนโยบายด้านกลาโหมของอิสราเอล


ก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 การเมืองในอิสราเอลเต็มไปด้วยความร้อนแรงและการประท้วงเรื่องการปฏิรูประบบตุลาการ คนในประเทศแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้ปฏิรูปเพื่อจำกัดอำนาจที่ล้นเหลือของฝ่ายตุลาการ ขณะที่อีกฝ่ายคัดค้านเพราะมองว่าเป็นจุดจบของระบอบประชาธิปไตย ความขัดแย้งนี้ถูกลืมไปทันทีเมื่อกลุ่มฮามาสก่อเหตุสะเทือนขวัญคนทั้งอิสราเอลและทั้งโลก ชาวอิสราเอลหันมาร่วมใจกันสนับสนุนกองกำลังป้องกันอิสราเอลให้ปราบฮามาส คนหนุ่มสาวที่เป็นทหารสำรองกลับเข้ากรมกองเพื่อรับใช้ชาติอย่างพร้อมเพรียง ลบคำปรามาสของคนรุ่นก่อนที่เคยคิดว่าคนรุ่นหลังอาจจะไม่เดินตามรอยบรรพบุรุษที่นำพาประเทศฝ่าสงครามมาแล้วในปี 2491, 2499, 2510 และ 2516 นับตั้งแต่รัฐอิสราเอลก่อตั้งขึ้นในปี 2491

Benjamin Netanyahu with Israeli soldiers
เนทันยาฮูให้กำลังใจทหารอิสราเอล

อย่างไรก็ดี การชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในอิสราเอลกลับมาอีกครั้ง แต่เป็นการประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางช่วยชีวิตตัวประกันที่ถูกฮามาสลักพาตัวไปมากกว่า 250 คน แม้มีการปล่อยตัวประกันแล้วบางส่วน แต่เมื่อเวลายิ่งผ่านไป ชะตากรรมของตัวประกันที่ยังไม่ได้กลับบ้านก็ยิ่งมืดมน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้ไม่เป็นที่นิยมของประชาชนอยู่แล้ว เพราะมีประเด็นในอดีตหลายเรื่องถูกตำหนิอย่างหนักว่าไม่พยายามช่วยตัวประกัน ครอบครัวตัวประกันจัดการชุมนุมทุกสัปดาห์เพื่อกดดันรัฐบาล

ขณะเดียวกันผู้นำทางการเมือง ข่าวกรอง และทางทหารในอิสราเอลที่เคยคิดมาตลอดว่า หากปล่อยให้ฮามาสปกครองฉนวนกาซาต่อไป อาจทำให้ฮามาสพอใจและไม่เปิดฉากโจมตีอิสราเอล ขณะนี้ได้ตระหนักแล้วว่า ไม่ควรทึกทักเอาเองเรื่องความเชื่อและเจตนารมณ์ของฮามาส และเป็นเหตุให้อิสราเอลต้องเปลี่ยนความคิดที่มีต่ออิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนว่า ควรมองที่ศักยภาพ ไม่ใช่เจตนารมณ์ที่คิดเอาเองอีกต่อไป อิสราเอลตัดสินใจเปลี่ยนกติกาในเดือนกันยายนด้วยการทุ่มสรรพกำลังลดทอนศักยภาพทางทหารของฮิซบอลเลาะห์ และภายใน 2 สัปดาห์ อิสราเอลก็สร้างความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ด้วยการสังหารนายฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์และแกนนำระดับสูงที่กำลังประชุมกันในศูนย์บัญชาการใต้ดินชานกรุงเบรุต


ความสูญเสียด้านมนุษยธรรมของชาวปาเลสไตน์

สงครามระหว่างกองกำลังป้องกันอิสราเอลกับนักรบฮามาสได้สร้างความเสียหายที่เป็นลูกหลงอย่างใหญ่หลวงให้แก่ชาวปาเลสไตน์ ชีวิตของพวกเขาต้องเปลี่ยนไปอย่างไม่มีทางหวนกลับคืน เมื่อบ้านเรือนที่เคยอยู่อาศัยถูกอิสราเอลระดมถล่มพังยับเยินโดยระบุว่า เป็นจุดที่ฮามาสใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว หลบซ่อนอาวุธและตัวประกัน ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซาระบุว่า นับจนถึงเดือนกันยายน มีคนในกาซาล้มตายแล้วไม่ต่ำกว่า 41,000 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 95,800 คน และกลายเป็นคนพลัดถิ่น 1.9 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 2.2 ล้านคน

destruction in Gaza 2

อาคารบ้านเรือนในกาซาถูกทำลายเสียหายราบคาบ มีสภาพไม่ต่างจากเมืองต่าง ๆ ในเยอรมนีที่ถูกถล่มในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงพยาบาลที่มีอยู่ทั้งหมด 36 แห่ง เหลือเพียง 17 แห่ง และสามารถให้บริการได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ซ้ำเติมด้วยการที่อิสราเอลปิดด่านข้ามแดนเข้ากาซา ทำให้ชาวปาเลสไตน์ขาดแคลนอาหาร น้ำ ยา และสิ่งจำเป็น โดยต้องอาศัยสิ่งของบรรเทาทุกข์จากภายนอกที่ลำเลียงเข้ามาอย่างยากลำบาก หน่วยงานของสหประชาชาติเผยว่า ความช่วยเหลือเกือบครึ่งหนึ่งถูกขัดขวางหรือไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในกาซา

และเมื่ออิสราเอลเริ่มใช้ปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินในกาซา ชาวปาเลสไตน์ถูกสั่งให้อพยพจากทางเหนือลงไปอยู่รวมกันทางตอนใต้ที่แออัดอยู่แล้ว เพราะเป็นพื้นที่เดียวที่อิสราเอลประกาศให้เป็นเขตปลอดภัย สถานการณ์เลวร้ายลงอีกเมื่อพื้นที่ดังกล่าวพบเด็กป่วยเป็นโปลิโอรายแรกในรอบ 25 ปี หน่วยงานบรรเทาทุกข์พากันเตือนว่า จะเกิดภาวะอดอยากในกาซาหากยังไม่มีการหยุดยิง

tents in south of Gaza

ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ในเขตเวสต์แบงก์ก็ได้รับผลพวงความเดือดร้อนจากสงครามในกาซาเช่นกันแม้ว่ามีพื้นที่อยู่คนละฝั่ง เนื่องจากอิสราเอลได้ปิดล้อมพื้นที่ ห้ามชาวปาเลสไตน์เดินทางเข้าไปทำงานในอิสราเอล มีการบุกตรวจค้นบ้านเรือนและสถานที่ต่าง ๆ เพื่อตามล่าตัวสมาชิกกลุ่มติดอาวุธกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในเมืองรามัลเลาะห์ระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออกถูกสังหารมากกว่า 700 คน หน่วยงานของยูเอ็นเผยว่า มีสิ่งปลูกสร้างถูกทำลายเกือบ 1,800 แห่ง มีคนพลัดถิ่น 4,450 คน และคน 1 ใน 3 กลายเป็นคนว่างงาน

“กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน” ของอิหร่านจับมือกันแน่นขึ้น

แกนหลักในนโยบายต่างประเทศของอิหร่านตลอดทศวรรษที่ผ่านมาเรียกว่า กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน (Axis of Resistance) เป็นกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุนทั่วตะวันออกกลาง โดยมีฐานที่มั่นอยู่ในอิรัก เลบานอน ซีเรียและเยเมน กลุ่มเหล่านี้เปิดโอกาสให้อิหร่านแสดงอำนาจแลกกับการให้ความคุ้มครอง และตราบใดที่อิหร่านไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุของกลุ่มเหล่านี้โดยตรง อิหร่านก็ยังคงลอยตัว ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ มี 2 กลุ่มที่โดดเด่นที่สุด คือ ฮามาสและฮิซบอลเลาะห์

ฮามาสซึ่งเป็นมุสลิมสุหนี่ ยอมให้อิหร่านซึ่งเป็นมุสลิมชีอะห์ ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ชาวมุสลิมทั้งปวง อิหร่านแสดงความชื่นชมฮามาสที่โจมตีอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ โดยคาดหมายไว้แล้วว่า อิสราเอลจะต้องตอบโต้อย่างรุนแรง แต่เชื่อว่าฮามาสจะเอาตัวรอดได้เมื่อเวลาผ่านไป

Hamas chief Haniyeh
อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส

ส่วนฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะห์ที่อิหร่านสร้างขึ้นในปี 2523 ได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอล คู่ขนานไปกับที่อิสราเอลทำสงครามกับฮามาสในกาซา อิหร่านหวังว่า การโจมตีพร้อมกันและความกลัวว่าความขัดแย้งจะลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคจะทำให้นานาชาติกดดันให้อิสราเอลยอมทำข้อตกลงที่จะปล่อยให้ฮามาสปกครองกาซาต่อไป แต่การณ์ไม่เป็นไปตามที่อิหร่านคาด เพราะอิสราเอลหันมาระดมถล่มศัตรูทางเหนืออย่างฮิซบอลเลาะห์ ปลิดชีพนายนาสรัลเลาะห์ที่เป็นผู้นำกลุ่ม และเปิดฉากบุกภาคพื้นดิน

Hassan Nasrallah Hizbollah leader
ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์

อิหร่านเองกำลังเตรียมตัวรับมือกับการตอบโต้จากอิสราเอล แม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายอาจไม่ต้องการให้สงครามลุกลาม แต่สถานการณ์การสู้รบอาจบีบให้ผู้นำแต่ละฝ่ายเข้าสู่จุดที่ไม่ต้องการ อิหร่านได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอลโดยตรงเป็นครั้งแรกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยได้โจมตีถึง 2 ครั้งในปีนี้ คือ เดือนเมษายนและเดือนนี้

Iran's Supreme Leader Ayatollah Ali Khamenei
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน

สงครามในกาซาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาทำให้อิหร่านได้รับผลพลอยได้อย่างคาดไม่ถึง จากการที่อิสราเอลถูกโดดเดี่ยวจากเวทีนานาชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศโลกใต้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่นอกทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ อิสราเอลกลายเป็นประเด็นที่สร้างความขัดแย้งในการเมืองอเมริกา เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างคนต่างรุ่น ขณะที่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกลับกลายเป็นขวัญใจของนักศึกษาที่ประท้วงตามสถานศึกษาในสหรัฐ ยิ่งความขัดแย้งในตะวันออกกลางยืดเยื้อ ชาติตะวันตกยิ่งมีแนวโน้มจะมีความคิดเห็นแบ่งขั้วกันมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่ออิหร่านและศัตรูของอิสราเอล

“ความสัมพันธ์พิเศษ” สหรัฐ-อิสราเอลตึงเครียดขึ้น

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิสราเอลก่อตัวขึ้นในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี เมื่อเขาประกาศระหว่างพบกับนางโกลดา แมร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลในปี 2505 ว่า ความสัมพันธ์ของสหรัฐกับอิสราเอลเป็นความสัมพันธ์พิเศษ เหมือนกับความสัมพันธ์ของสหรัฐกับสหราชอาณาจักร

ตลอด 6 ทศวรรษที่ผ่านมาสหรัฐได้มุ่งมั่นต่อการให้ความช่วยเหลือในการปกป้องอิสราเอล ผ่านความสัมพันธ์ทางกลาโหมที่กำหนดให้สหรัฐต้องสร้างหลักประกันว่า อิสราเอลจะมีความได้เปรียบทางทหารอย่างมีคุณภาพเหนือศัตรูของอิสราเอล ความสัมพันธ์พิเศษนี้ไม่ได้หมายถึงความมั่นคงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงประวัติศาสตร์ การเมือง ศาสนาและศีลธรรม ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนต้องให้การสนับสนุนแก่อิสราเอลอย่างเต็มที่ เมื่อฮามาสบุกเข้ามาสังหารคนในอิสราเอลมากถึง 1,200 คนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 แต่ในขณะเดียวกันช่วงเวลาดังกล่าวได้หว่านเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความตึงเครียดให้แก่รัฐบาลไบเดนกับรัฐบาลเนทันยาฮู

ช่วงเดือนแรก ๆ ของการสู้รบในกาซา ประธานาธิบดีไบเดนไม่ได้กังวลเรื่องแผนการรบของอิสราเอลเท่าใดนัก จนกระทั่งยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์เริ่มเพิ่มมากขึ้น และอาจส่งผลทางการเมืองต่อไบเดนที่สนับสนุนอิสราเอล ผู้นำสหรัฐเริ่มยอมรับความเจ็บปวดของชาวปาเลสไตน์ และวิจารณ์ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลอย่างอ้อม ๆ เมื่อการสู้รบย่างเข้าสู่ปี 2567 การที่ทำเนียบขาวพยายามเรียกร้องให้มีการหยุดยิง ทำให้ความสัมพันธ์ตึงเครียด เพราะอิสราเอลมองว่า การหยุดยิงโดยที่ฮามาสไม่ยอมแพ้จะยิ่งทำให้ฮามาสได้เปรียบ ความสัมพันธ์ตึงเครียดขึ้นอีก เมื่อทหารอิสราเอลสังหารเจ้าหน้าที่ขององค์กรเวิลด์เซ็นทรัลคิตเชน ที่เป็นองค์กรบรรเทาทุกข์ในสหรัฐ เสียชีวิต 7 คนโดยไม่เจตนา เป็นเหตุให้สหรัฐเพิ่มการกดดันอิสราเอล

World Central Kitchen workers car attacked by Israel
รถของเวิลด์เซ็นทรัลคิตเชนถูกโจมตี

ความสัมพันธ์ของสหรัฐและอิสราเอลเขม็งเกลียวมากยิ่งขึ้นเมื่อสถานการณ์ในเลบานอนเริ่มเลวร้ายลงในเดือนกันยายน เริ่มจากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารจำนวนมากระเบิดพร้อมกัน ทำให้สมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และพลเรือนจำนวนหนึ่งเสียชีวิต ตามด้วยการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศปูพรมถล่มเลบานอน สหรัฐและฝรั่งเศสเรียกร้องให้หยุดยิงเป็นเวลา 21 วัน เพราะเกรงว่าสงครามจะบานปลาย แต่คณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลที่ดูเหมือนจะยอมถอย กลับอนุมัติปฏิบัติการระดมยิงขีปนาวุธสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์และแกนนำทางตอนใต้ของกรุงเบรุตเมื่อวันที่ 27 กันยายน อย่างไรก็ดี การที่รัฐบาลอิสราเอลไม่สนใจคำแนะนำของสหรัฐ ไม่ได้ทำให้สหรัฐเปลี่ยนนโยบายปกป้องอิสราเอล เห็นได้จากการที่สหรัฐช่วยยิงสกัดขีปนาวุธบางส่วนที่อิหร่านระดมยิงใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม

Final Thoughts: สงครามรอบนี้จะยุติลงเมื่อใด

การที่อิสราเอลเปิดศึกหลายด้าน ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า สงครามรอบนี้จะยุติลงเมื่อใด และจะยุติลงได้อย่างไร ปฏิบัติการของอิสราเอลที่เริ่มจากการตอบโต้ฮามาสที่บุกข้ามพรมแดนเข้ามาสังหารผู้คนและลักพาตัวคนเมื่อ 1 ปีก่อน กลายเป็นการทำลายล้างชีวิตผู้คนในกาซา ตามที่อิสราเอลประกาศว่าจะไม่ยุติปฏิบัติการจนกว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสได้สิ้นซาก และในขณะที่เป้าหมายในกาซายังไม่สำเร็จ อิสราเอลได้หันมาจัดการกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เริ่มด้วยการปูพรมโจมตีทางอากาศ ตามด้วยปฏิบัติการบุกภาคพื้น คล้ายกับยุทธวิธีที่อิสราเอลใช้กับกาซามาก่อน พร้อมประกาศว่าเป้าหมายของการรุกเลบานอนครั้งนี้คือ ปรับ “สมดุลความมั่นคง” เพื่อให้ชาวอิสราเอลที่ต้องลี้ภัยสามารถกลับเข้าถิ่นฐานตามแนวพรมแดนทางเหนือได้ แต่น่าคิดว่า เป้าหมายที่แท้จริงของอิสราเอลคืออะไร เพราะดูเหมือนว่า การกำจัดผู้นำของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ที่บรรลุผลไปแล้วยังไม่ใช่จุดหมายปลายทางของอิสราเอลในสงครามรอบนี้ ยิ่งเมื่อมองจากวิธีการที่ใช้มาและลำดับขั้นตอนของการรุกไล่ศัตรู ตั้งแต่การใช้อุปกรณ์สื่อสารเป็นอาวุธอย่างล้ำลึกมืดดำ แล้วค่อย ๆ ตัดแขนตัดขาฮิซบอลเลาะห์ อิสราเอลน่าจะคิดใหญ่กว่านั้น

News on Iran use missiles against Israel
ข่าวอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล

ส่วนสมการความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ใหญ่ยิ่งกว่านั้น คือ อิหร่าน ยิ่งน่าหนักใจ— การโจมตีด้วยขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ไม่ต้องถามเลยว่า อิสราเอลจะตอบโต้หรือไม่ แต่เป็นคำถามว่า จะตอบโต้อย่างไร เมื่อไหร่ และจะพุ่งเป้าไปที่นิวเคลียร์อิหร่านหรือไม่ สายเหยี่ยวในรัฐบาลอิสราเอลมองการโจมตีของอิหร่านครั้งนี้ว่า เป็นการหยิบยื่นโอกาสให้อิสราเอลที่จะเอาคืนแบบสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ที่เกิดขี้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

แต่สำหรับผู้ใฝ่สันติภาพ ย่อมเป็นเรื่องยากขึ้นทุกทีที่จะเตือนว่า ยิ่งก่อสงคราม ยิ่งเกิดสงครามตามมาไม่จบสิ้น -814(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]