TNA News-Now-Next: ยุโรป-จีนพร้อมประดาบในสงครามการค้าจากปมรถยนต์ EV

บรัสเซลส์ 16 มิ.ย.- เริ่มลั่นกลองรบแล้วสำหรับสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นสงครามการค้า ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนเป็นไฟชนวน จากที่มีแนวโน้มว่าอุตสาหกรรมมาแรงของจีนนี้จะผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของโลก ในที่สุดสหภาพยุโรปประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนลดหลั่นกันไป จากปัจจุบัน 10% เพิ่มขึ้นไปสูงสุด 38%


มาตรการปกป้องตลาด ตอบโต้การทุ่มตลาด
สหภาพยุโรป ซึ่งนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV จากจีนมากมาย ได้แจ้งต่อจีนที่เป็นประเทศต้นทางว่า เตรียมใช้อัตราภาษีนำเข้าใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้าของจีน จากปัจจุบัน 10% ไปเป็นระหว่าง 25-38% ให้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเป็นไปตามระเบียบขององค์การการค้าโลก ที่ต้องแจ้งกับประเทศต้นทางล่วงหน้า เพื่อให้มีเวลาโต้แย้งหรือคัดค้าน

สหภาพยุโรปได้ยกเรื่องนี้มาเตือน ท้วงติง และโน้มน้าวจีนมานานแล้วว่า ต้องงัดมาตรการนี้ออกมา เพื่อตอบโต้มาตรการของรัฐบาลจีนที่ให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า แล้วนำรถมาจำหน่ายในยุโรปด้วยราคาต่ำเตี้ย ตีตลาดรถยุโรป กระทบผู้ผลิตภายใน คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเคยจัดทำรายงานการสืบสวนสรุปว่า การกระทำของจีนสร้างการค้าที่ไม่เป็นธรรม ทำลายความเท่าเทียมในตลาด หรืออาจเรียกได้ว่า เข้าลักษณะการทุ่มตลาด


หรือเข้าข่ายกีดกันการค้า
หันไปมองจากมุมของจีน รัฐบาลปักกิ่งวิจารณ์แนวทางนี้ว่า เป็นพฤติกรรมกีดกันการค้า ที่เป็นการเดินผิดทิศผิดทาง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนติงว่า สหภาพยุโรปกำลังใช้หลักปฏิบัติผิด ๆ แทนที่ควรจัดการความขัดแย้งทางการค้าด้วยการเจรจาหารือ

ต่อมากระทรวงพาณิชย์ของจีนส่งสัญญาณว่า จีนเตรียมเอาคืนกับสินค้านำเข้าจากยุโรปเช่นกัน ด้วยการยกสิทธิของผู้ส่งออกจีนว่า มีสิทธิที่จะตรวจสอบการทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรมจากฝ่ายยุโรปบ้าง ร้อนถึงผู้ผลิตและส่งออกสินค้าของสหภาพยุโรป โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นมและเนื้อสุกร เพื่อรับมือกับมาตรการที่จีนอาจนำมาโต้

สำนักข่าวของรัฐบาลจีนต่างเสนอรายงานข่าวและบทความ เรียกร้องให้หารือเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ และหลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้าย


อัตราภาษีโหดหรือไม่
ยุโรป เช่นเดียวกับอีกหลายตลาดทั่วโลก นำเข้ารถ EV จากจีนมากขึ้นในทุก ๆ ปี โดยเมื่อปี 2566 นำเข้ามากกว่า 430,000 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 45% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

เมื่อผ่านการสืบสวนและพิจารณา นำมาซึ่งการตัดสินใจเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศอัตราภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีนในอัตราเพิ่มเติม เรียกเก็บแต่ละบริษัทในอัตราที่ต่างกัน

SAIC เพิ่มขึ้นสูงสุด 38.1%
Gleely เพิ่มขึ้น 20%
BYD เพิ่มขึ้น 17.4%

มาตรการทางภาษีมีผลวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ยังให้ถือว่าเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อเปิดทางเจรจาแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งประเมินกันว่าจะสร้างภาระภาษีกับรถยนต์ไฟฟ้าจีนเป็นมูลค่าสูง 2,000 ล้านยูโรต่อปี

มาถึงจุดที่ต้องประดาบกันได้อย่างไร
สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปเติบโตเร็วมาก จากปี 2560 เพียงแค่หลัก 17,800 คัน สู่ 437,000 คันในปี 2566 ในเวลาที่จีนกำลังผงาดเป็นผู้นำ EV โลก สัดส่วนรถสัญชาติจีนในตลาดยุโรปที่จากเดิมมีเพียง 0.4% ในปี 2562 พุ่งขึ้นเป็น 7.9% ในปี 2566 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 20% ภายในปี 2570

ก่อนนี้คณะกรรมาธิการยุโรปมีนโยบายสนับสนุนการนำเข้ารถ EV จีนไม่ต่างจากหลายประเทศ แต่กลายมาทำร้ายอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหภาพยุโรปเอง ยอดขายรถ กำไร ไปจนถึงส่วนแบ่งการตลาดสั่นคลอน

ผู้เสนอแนวทางการปรับขึ้นภาษีนำเข้านี้มองว่า จะทำให้ให้ราคาขาย EV ของจีนขยับเข้ามาใกล้กับคู่แข่งในยุโรปมากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมมากกว่า

แต่มีผู้เห็นต่างเหมือนกัน เช่น สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งเยอรมนี (VDA) ที่แย้งว่า การเพิ่มภาษีไม่ได้ช่วยกระตุ้นความสามารถในการแข่งขัน และก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการค้าตามมา

ผลพวงอีกด้านที่จะตามมาคือ บริษัทยานยนต์ยุโรปที่มีฐานการผลิตในจีน จะพลอยถูกร่างแหไปด้วย

สหรัฐงัดไม้แข็งเพิ่มภาษี EV จีน 100%
การขึ้นภาษีนำเข้าของสหภาพยุโรปรอบนี้ ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับสหรัฐ ที่ก่อนหน้านี้เพิ่มภาษีนำเข้า EV 4 เท่า ขึ้นไปเป็น 100% ด้วยเหตุผลคล้ายกันคือ อุตสาหกรรมรถไฟฟ้าของจีนนั้นอยู่ในภาวะการผลิตล้นและเป็นภัยคุกคามต่อผู้ผลิตรถทั่วโลก เพราะรัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุน

Final Thoughts: สงครามปราบการทุ่มตลาด หรือ ศึกกีดกันการค้า
สหภาพยุโรปได้เริ่มต้นการศึกแล้ว อยู่ที่ว่าจีนจะใช้แม่ไม้หรือการยุทธ์ใดมารับมืออย่างไร บทสรุปจะนำไปสู่การแสวงหาทางออกร่วมกัน หรือกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ยังคงต้องรอคำตอบในอีกไม่นานนี้ว่า จะเข้าลักษณะที่ธนาคารโลกเพิ่งออกมาเตือนว่า ลัทธิกีดกันการค้ายุคใหม่ได้สกัดกั้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจของโลก และยิ่งทำให้ประเทศกำลังพัฒนาถูกทิ้งห่างมากขึ้น ผิดไปจากยุค 25 ปีหลังสงครามเย็นที่การค้าอย่างเสรีและเป็นธรรม การไหลบ่าของเงินทุนและแนวคิดนวัตกรรมทำให้เกิดยุคการเติบโตเพื่อความมั่งคั่ง หรือว่าศึกนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่า การค้าที่ยั่งยืนต้องแข่งขันอย่างเป็นธรรม นอกจากยุโรปและสหรัฐ ยังมีประเทศอื่นใดเป็นเดือดเป็นร้อนกับการทุ่มตลาด ที่อาจลามไปยังสินค้าอื่นๆ อย่าง เหล็กกล้า แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยหรือไม่.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย