วอชิงตัน 21 ธ.ค.- สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ (FDA) อนุมัติการใช้ยาฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ โดยเป็นยาฉีดขนานแรกที่ใช้สำหรับป้องกันก่อนสัมผัสโรค หรือเพร็บ (PrEP)
เอฟดีเออนุมัติการใช้อะพริจูด (Apretude) ซึ่งเป็นยาฉีดทุก 2 เดือน เป็นทางเลือกแทนยาเม็ดป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีอย่างทรูวาดา (Truvada) และเดสโกวี (Descovy) ที่สามารถลดความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีได้ร้อยละ 99 แต่ต้องรับประทานทุกวัน โดยอนุมัติให้ใช้กับผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และต้องมีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 77 ปอนด์ หรือราว 34.92 กิโลกรัม ที่สำคัญผู้จะฉีดยาขนานนี้ต้องมีผลตรวจหาเชื้อเอชวีเป็นลบก่อนเริ่มฉีดครั้งแรก และก่อนการฉีดครั้งต่อ ๆ ไป เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อเอชไอวีดื้อยา
อย่างไรก็ดี เอฟดีเอเตือนว่า ยาฉีดขนานนี้อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และเป็นผื่น นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดภาวะภูมิไวเกิน ทำลายตับ และเกิดภาวะซึมเศร้าได้ ผู้อำนวยการแผนกต้านไวรัสของศูนย์ประเมินและวิจัยยาของเอฟดีเอกล่าวว่า การอนุมัติใช้ยาฉีดดังกล่าวช่วยเพิ่มเครื่องมือสำคัญในการหาทางยุติเอชไอวีระบาด เพราะเป็นทางเลือกให้กลุ่มเสี่ยงสูงที่อาจไม่สะดวกในการรับประทานยาป้องกันทุกวัน
สหรัฐตรวจพบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในปี 2562 ประมาณ 34,800 คน ลดลงจาก 37,800 คนในปี 2558 ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) พบว่า ปี 2563 มีคนได้รับคำแนะนำให้ป้องกันก่อนสัมผัสโรคหรือเพร็บ (PrEP) ราว 1 ล้าน 2 แสนคน แต่มีคนได้รับการสั่งจ่ายยาป้องกันเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย