โซล 12 มี.ค. – นายกรัฐมนตรีชุง เซ-คยุน ของเกาหลีใต้ กล่าวว่า รัฐบาลจะขยายกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยให้ครอบคลุมการห้ามการพบปะเป็นการส่วนตัวของประชาชนเกินกว่า 4 คนขึ้นไป เพื่อขจัดความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดระลอกที่ 4 ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นายกรัฐมนตรีชุง ประกาศเรื่องนี้ ในขณะที่เกาหลีใต้กำลังระดัมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชน และอนุญาตให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนโควิดให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากร 52 ล้านคนภายในเดือนกันยายนนี้ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรค หรือ เคซีดีเอ ของเกาหลีใต้กล่าวว่า นับจนถึงเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้ว 546,277 โดส โดยใช้วัคซีนทั้งของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์-ไบออนเทค นายชุงกล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเกาหลีใต้ไม่ขยับไปไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนหงุดหงิดมาก คือวนอยู่ที่ระดับ 300-400 คนในช่วง 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ขยับลดลงกว่านี้เลย เมื่อวานนี้ก็พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 488 ราย มากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ยังเตือนว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการะบาดเป็นกลุ่มก้อนในเขต กรุงโซลและบริเวณรอบ ๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการระบาดระลอกที่ 3 เขากล่าวว่า รัฐบาลทราบดีว่าประชาชนกำลังเริ่มเบื่อหน่ายกับมาตรการเว้นระยะห่างที่ยาวนาน แต่การหยุดมาตรการป้องกัน อาจจะส่งผลให้เกิดการระบาดระลอกที่ 4 ได้.-สำนักข่าวไทย