ย่างกุ้ง 10 ก.พ. – ผู้ประท้วงเริ่มกลับมารวมตัวตามท้องถนนในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมาอีกครั้งในเช้าวันนี้ หลังจากการชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพเมื่อวานนี้มีเหตุรุนแรงจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสลายการชุมนุมด้วยการใช้หัวฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง
สหรัฐและสหประชาชาติต่างประณามการใช้กำลังกับผู้ประท้วง ที่เรียกร้องให้ยกเลิกการก่อรัฐประหารและปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกโค่นล้มไปและแกนนำคนอื่น ๆ ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี รวมทั้งนักเคลื่อนไหวทางการเมืองคนอื่น ๆ ที่กรุงเนปิดอว์ พนักงานของรัฐหลายร้อยคนเดินขบวนเพื่อสนับสนุนการใช้วิธีอารยะขัดขืน โดยมีแพทย์ ครู-อาจารย์ พนักงานรถไฟ และอีกหลายกลุ่มให้การสนับสนุน แพทย์คนหนึ่งกล่าวว่า ผู้ประท้วงสตรีรายหนึ่งน่าจะเสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนที่บริเวณศีรษะในระหว่างการประท้วงเมื่อวานนี้ เธอได้รับบาดเจ็บหลังจากตำรวจยิงปืน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการยิงขึ้นฟ้า เพื่อสลายการชุมนุมในกรุงเนปิดอว์ แพทย์กล่าวว่า มีผู้ประท้วงอีก 3 ราย ได้รับบาดเจ็บและเข้ารับกษาตัวจากบาดแผลที่สงสัยว่าจะเกิดจากกระสุนยาง มีรายงานผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บที่เมืองมันฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมาและที่เมืองอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้หัวฉีดน้ำในการสลายการชุมนุมเช่นเดียวกัน สื่อของทางการเมียนมา รายงานว่า มีตำรวจได้รับบาดเจ็บในระหว่างการสลายการชุมนุม จากสิ่งของ เช่น หินและก้อนอิฐ ที่ผู้ประท้วงขว้างเข้าใส่
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐกำลังทบทวนการให้ความช่วยเหลือเมียนมา เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหารจะได้รับผลที่จะตามมาจากการกระทำนี้อย่างชัดเจน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวด้วยว่า สหรัฐขอย้ำข้อเรียกร้องเดิมอีกครั้งให้กองทัพสละอำนาจที่ยึดมาและรื้อฟื้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมไว้ ยกเลิกมาตรการควบคุมระบบโทรคมนาคมและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ทางด้านสหประชาชาติเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงเคารพในสิทธิของประชาชนในการประท้วงอย่างสันติ ผู้แทนของสหประชาชาติประจำเมียนมากล่าวว่า การใช้กำลังที่รุนแรงกับผู้ประท้วงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ มีรายงานด้วยว่า มีผู้ถูกจับกุมเกือบ 60 คน จากหลายพื้นที่ของเมียนมาเมื่อวานนี้.-สำนักข่าวไทย