โซล 22 ต.ค.- ศาลท้องถิ่นเกาหลีใต้ตัดสินจำคุก 2 ปี คนขับรถแท็กซี่ที่เจตนาขับชนรถคันอื่นหวังกรรโชกทรัพย์หลายครั้ง แต่ไม่รวมคดีที่ทำให้สังคมเกาหลีใต้โกรธแค้นเรื่องเจตนาชนรถพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยหนักวัยชราเสียชีวิตเพราะไปถึงโรงพยาบาลล่าช้า
ศาลแขวงโซลตะวันออกตัดสินจำคุก 2 ปีคนขับรถแท็กซี่วัย 31 ปี ข้อหาทำร้ายร่างกาย ฉ้อโกง และอื่น ๆ ผลการสอบสวนพบว่า เขาได้เงินราว 20 ล้านวอน (ราว 551,680 บาท) จากเจ้าของรถที่ถูกเจตนาขับชน 6 ครั้งระหว่างปี 2558-2562 คำตัดสินของศาลระบุว่า จำเลยประกอบอาชีพขับรถรับจ้างมาหลายปี เจตนาทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือแสร้งว่าต้องรับการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุเล็กน้อยหวังรีดไถเงิน นอกจากนี้พฤติกรรมการกระทำความผิดของเขาก็เลวร้ายมาก อย่างไรก็ดี การตัดสินโทษดังกล่าวศาลไม่ได้พิจารณาเรื่องคดีอุบัติเหตุวันที่ 8 มิถุนายนที่จำเลยถูกกล่าวหาว่า เจตนาชนรถพยาบาลบนถนนสายหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล ขวางรถพยาบาลไว้ 10 นาที ไม่ยอมให้ไปส่งผู้ป่วยหากเคลียร์อุบัติเหตุไม่เสร็จ เป็นเหตุให้รถไปถึงโรงพยาบาลล่าช้า 10 นาที ชายวัย 79 ปี ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายเสียชีวิตภายในวันนั้น
บุตรชายผู้เสียชีวิตเขียนคำร้องออนไลน์ในเว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีในเดือนกรกฎาคมว่า คนขับแท็กซี่บอกในเวลานั้นว่าจะรับผิดชอบเองหากผู้ป่วยเสียชีวิต ทำให้คนในเกาหลีใต้พากันประณาม อัยการขอให้ศาลสั่งจำคุก 7 ปี โทษฐานไม่สำนึกความผิด และมีความเป็นไปได้ที่จะทำผิดซ้ำ ศาลชี้แจงว่า สาเหตุที่ตัดสินโทษโดยไม่ได้พิจารณาคดีนี้เนื่องจากคำฟ้องไม่ได้อ้างอิงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอุบัติเหตุกับการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายนี้ ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้แยกฟ้องคดีอาญากับคนขับแท็กซี่ในข้อหาฆ่าคนตาย และข้อหาทำให้คนตายด้วยการทำร้ายร่างกาย ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ และได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพราะได้รับความทุกข์ทางจิตใจจากการเสียชีวิตดังกล่าว.- สำนักข่าวไทย