พปชร. ชี้คนตายข้างถนนสะท้อนการบริหารจัดการผู้ว่าฯ

กทม. 21ก.ค. -ธณิกาณต์ เศร้า คนตายข้างถนน สะท้อนการบริหารจัดการของ ผู้ว่าฯ กทม.แนะ ใช้งบเหลือจ่าย 20,000 ล้าน เร่งปูพรมตรวจ ซื้อยาฟาวิฯแจก คนติดเชื้อ


น.ส.ธณิกานต์ พรพงษ์สาโรจน์ ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า เมื่อวานนี้(20ก.ค.)มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตข้างถนน 3 ราย เพราะได้รับการช่วยเหลือไม่ทันท่วงที ในฐานะผู้แทน ชาวกทม. รู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง จึงได้สะท้อนปัญหาและเรียกร้องกับผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร แก้ปัญหาให้ตรงประเด็นเป็นการเร่งด่วน เพื่อป้องกันการสูญเสีย และเพิ่มความปลอดภัยให้ชาวกรุงเทพฯ ใน 5 ประเด็น คือ 1. การเร่งตรวจ X-ray ปูพรมชุมชน แยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนแออัด ด้วย Rapid Antigen Test 2. การแก้ปัญหาคอขวดการตรวจ RT-PCR โดยตั้งจุดตรวจให้ครบทุกเขต ป้องกันการเดินทางข้ามเขต ซึ่งอาจเกิดการแพร่กระจายเชื้อเพิ่ม 3. การใช้งบฯกทม.จัดซื้อและส่งยาฟาวิพิราเวียร์แก่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่เข้าสู่กระบวนการ Home Isolation และ Community Isolation 4. การเข้าสู่กระบวนการ Community Isolation ณ ศูนย์พักคอย ซึ่งจำเป็นมากสำหรับคนชุมชนที่ไม่สามารถแยกรักษาตัวที่บ้านแบบ Home Isolation ได้ โดยจัดให้มีอย่างน้อย 1 เขต 1 ศูนย์พักคอย และวางแผนในการเพิ่มศูนย์รองรับผู้ติดเชื้ออย่างเพียงพอ และ5. การจัดระบบ Telemedicine เพื่อดูแลผู้ป่วยที่เข้าสู่กระบวนการรักษาที่บ้านหรือที่ศูนย์ฯ

น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า งบประมาณกรุงเทพมหานคร ปี 2564 วงเงิน 75,500 ล้านบาท และปัจจุบันมีงบเหลือจ่ายในไตรมาสสุดท้ายนี้ อีกประมาณ 20,000 ล้านบาท จึงอยากตั้งข้อสังเกตในส่วนงบกลาง ที่ผู้ว่าฯ กทม. สามารถใช้บริหารจัดการดูแลป้องกันพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ให้ปลอดภัยจากโควิด-19 มากที่สุด ประเด็นสำคัญจึงไม่น่าจะเป็นส่วนของงบประมาณ แต่อาจเป็นการบริหารจัดการและการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งในฐานะผู้แทนฯ ชาวกรุงเทพฯ จะผลักดันและติดตามจนกว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะสามารถกลับสู่วิถีชีวิตที่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย