อังกฤษ 21 ก.ค.- ผลการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษในเบื้องต้นได้ผลน่าพอใจในการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสได้
นักวิจัยได้เริ่มทดลองวัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดร่วมกับบริษัทยาแอสตราเซเนกา กับอาสาสมัคร 1,077 คน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยครึ่งหนึ่งได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงแรกนักวิจัยต้องการประเมินดูความปลอดภัยและการตอบสนองต่อการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ผลการทดลองพบว่า วัคซีนกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันที่สกัดกั้นการติดเชื้อไวรัสได้และยังสร้างการตอบสนองในเซลล์ที่ช่วยต่อสู้กับไวรัสด้วย ขณะที่เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการไข้ หนาวสั่น และปวดกล้ามเนื้อมากกว่าอาสาสมัครที่ได้ รับวัคซีนป้องกันเยื้อหุ้มสมองอักเสบ ข้อมูลการทดลองที่ได้นี้ทำให้มีความหวังว่าโลกจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ทั่วโลกกำลังมีการพัฒนาวัคซีนกว่า 150 ชนิด ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการทดลองต่างๆ ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แสดงความยินดีกับข่าวดีนี้แม้จะเป็นเพียงการทดลองขั้นต้นเท่านั้น
ขณะเดียวกัน วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทซิโนแวคของจีนได้มาถึงบราซิลแล้ว โดยจะถูกใช้ทดลองกับอาสาสมัคร 9,000 คนใน 6 รัฐเป็นเวลา 90 วัน การทดลองครั้งนี้เป็นการทดลองขั้นที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย หากประสบความสำเร็จ บราซิลจะเริ่มผลิตวัคซีนเองในปีหน้าและนำออกใช้ในระบบสาธารณสุขของประเทศจำนวน 120 ล้านโดสโดยไม่คิดมูลค่า.-สำนักข่าวไทย
