โซล 9 มิ.ย.- ศาลแขวงโซลกลางของเกาหลีใต้ไม่ออกหมายจับนายลี แจยอง รองประธานซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ตามที่อัยการร้องขอในคดีควบรวมธุรกิจในเครือเพื่อเปิดทางให้สืบทอดตำแหน่งจากบิดา โดยให้เหตุผลว่าคำร้องไม่มีน้ำหนักมากพอ
ผู้พิพากษาแถลงว่า อัยการไม่มีคำชี้แจงมากพอเรื่องจำเป็นต้องควบคุมตัวจำเลยที่ต้องขัดกับหลักการไต่สวนโดยไม่ต้องควบคุมตัว และดูเหมือนว่าอัยการสามารถรวบรวมหลักฐานได้มากพอแล้วผ่านการสอบสวน ส่วนนายลีจะกระทำผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ต้องรอการพิจารณาคดีอีกครั้ง
คำแถลงของศาลเท่ากับว่านายลีและอดีตผู้บริหารซัมซุงอีกสองคนไม่ถูกควบคุมตัวตามที่อัยการร้องขอให้ศาลออกหมายจับ ฐานต้องสงสัยพัวพันการปั่นราคาหุ้นและการซื้อขายหุ้นผิดกฎหมายระหว่างการควบรวมธุรกิจในเครือสองแห่งเมื่อปี 2558 เพื่อให้นายลีถือหุ้นใหญ่ที่สุดในธุรกิจที่ควบรวมแล้วซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของซัมซุง ปูทางให้เขาสืบทอดตำแหน่งประธานอย่างเป็นทางการต่อจากนายลี คุนฮี บิดาที่ป่วยตั้งแต่ปี 2557 เพราะปัจจุบันเขาเป็นประธานเพียงพฤตินัยเท่านั้น เอเอฟพีอธิบายเพิ่มเติมว่า ตระกูลกลุ่มธุรกิจใหญ่ในเกาหลีใต้มักถือหุ้นจำนวนไม่มากในอาณาจักรธุรกิจของตนเอง แต่กุมอำนาจบริหารผ่านการถือหุ้นไขว้อย่างซับซ้อนระหว่างธุรกิจในเครือ ซัมซุงมีผลประกอบการคิดเป็น 1 ใน 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติหรือจีเอ็นพี (GNP) ของเกาหลีใต้ จึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศ
สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า นายลี ซึ่งจะมีอายุ 52 ปีในเดือนนี้ไปฟังการพิจารณาของศาลซึ่งกินเวลานานถึง 9 ชั่วโมงและรอฟังคำแถลงที่สถานควบคุมตัว ก่อนออกมาเมื่อเวลา 02.40 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทักทายผู้สื่อข่าวแล้วขึ้นรถไปทันที เขาเคยถูกจับกุมเมื่อต้นปี 2560 และถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 5 ปีในคดีติดสินบนพัวพันถึงปัก กึยฮเย อดีตประธานาธิบดี แต่ศาลอุทธรณ์ลดโทษเหลือกึ่งหนึ่งและให้รอลงอาญา ได้รับการปล่อยตัวในปีถัดมา ล่าสุดศาลฎีกาสั่งให้รื้อคดีมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง.- สำนักข่าวไทย