เนปยีดอ 1 เม.ย. – ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 ทางภาคกลางของเมียนมาเมื่อวันศุกร์พุ่งทะลุ 2 พันราย ขณะที่ชาวบ้านในเมืองมัณฑะเลย์ ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ยังหวาดกลัวหลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง พากันมากางเต็นท์และกางมุ้งนอนข้างถนน
ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 เขย่าพื้นที่ภาคกลางของเมียนมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว จนถึงขณะนี้ความเสียหายครั้งใหญ่ปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2,056 ราย บาดเจ็บมากกว่า 3,900 คน และยังสูญหายอยู่อีก 270 คน อย่างไรก็ตาม สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐประเมินว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่า 10,000 ราย ตัวเลขความสูญเสียทางเศรษฐกิจอาจเกินกว่าจีดีพีของเมียนมา คือกว่า 227,000 ล้านบาท
แผ่นดินไหวซึ่งรุนแรงที่สุดในเมียนมาในรอบ 100 ปี เขย่าภูมิภาคสะกาย ใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในเขตเมือง อาคารบ้านเรือนพังถล่มทิ้งเศษซากไว้เต็มสองข้างทาง ในเขตเมืองของเมืองสะกายได้รับความเสียหายอย่างหนัก อาคารบ้านเรือนกว่าร้อยละ 80 ของเมืองถูกทำลาย ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต ถนนบางสายและสะพานหลายแห่งพังถล่มทั้งหมด ผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากถูกฝังอยู่ใต้ซากเช่นเดียวกับในเมืองมัณฑะเลย์ อาคารสูงหลายแห่งพังถล่มราบเป็นหน้ากลอง ชาวบ้านที่รอดชีวิตจำนวนมากพากันนอนตามข้างถนน หรือบนทางเท้าริมแม่น้ำ ล้อมรอบไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ ตามทางเท้าเต็มไปด้วยเต็นท์และมุ้งกันยุง พวกเขาต้องนอนกลางแจ้งท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม ไม่กล้าอยู่ในบ้านเรือนตนเองเนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อคอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ทีมกู้ภัยจากต่างประเทศ และสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆ ทะยอยเดินทางถึงเมียนมา เพื่อช่วยรับมือกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และเข้าร่วมในความพยายามบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ต่างๆ ในเมียนมา แม้จะผ่านพ้นมาแล้ว 72 ชั่วโมง โดยจนถึงขณะนี้ ทีมกู้ภัยจีนสามารถช่วยผู้รอดชีวิตแล้ว 6 คนในเมืองมัณฑะเลย์และกรุงเนปิดอว์ ส่วนทีมกู้ภัยเมียนมาและนานาชาติ สามารถช่วยผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พักอาศัยความสูง 11 ชั้นที่พังถล่มลงมาในเมืองมัณฑะเลย์ได้แล้วประมาณ 30 คน แต่ยังเหลืออยู่อีกมากกว่า 60 คน.-815.-สำนักข่าวไทย
