มินนิอาโปลิส 31 พ.ค. – ประชาชนในหลายพื้นที่ของสหรัฐชุมนุมก่อความไม่สงบและทางการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวในหลายเมืองใหญ่ของประเทศเมื่อวานนี้ โดยประชนชนออกไปเดินขบวนกันเพื่อแสดงความไม่พอใจที่ชายผิวดำถูกตำรวจผิวขาวจับกดคอกับพื้นจนเสียชีวิตในเมืองมินิอาโปลิส ของรัฐมินนิโซตา
ประชาชนในนครลอสแองเจลิส ไมอามี และชิคาโก เริ่มการเดินขบวนประท้วงอย่างสงบก่อนที่จะลุกลามเป็นการปิดถนน จุดไฟเผาสร้างความเสียหายและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ที่ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนพลาสติกเข้าใส่ผู้ประท้วงเพื่อพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ที่กรุงวอชิงตัน นครหลวง ผู้ประท้วงหลายร้อยคนไปรวมตัวกันที่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของกระทรวงยุติธรรมร้องตะโกนเรียกร้องความยุติธรรม หลายคนเคลื่อนย้ายไปประท้วงที่ทำเนียบขาว ซึ่งถูกสกัดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เมืองมินิอาโปลิส เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอุปกรณ์ปราบจลาจล ปะทะกับผู้ประท้วงที่ละเมิดคำสั่งเคอร์ฟิว ด้วยการใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสงในการผลักดันผู้ประท้วงออกจากบริเวณสถานีตำรวจ นครลอสแองเจลิส เมืองแอตแลนตาและฟิลาเดลเฟีย เป็นส่วนหนึ่งของเมืองใหญ่หลายเมืองที่ประกาศเคอร์ฟิว หลังมีประชาชนออกไปชุมนุมประท้วงตามท้องถนน จอร์จ ฟลอยด์ เป็นชายผิวดำที่เสียชีวิตหลังจากตำรวจผิวขาวใช้หัวเข่ากดคอเขาไว้กับพื้นนานเกือบ 9 นาทีแม้เขาจะร้องขอว่าหายใจไม่ออกแล้วก็ตาม เรื่องนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่แสดงถึงการกระทำรุนแรงของตำรวจต่อคนผิวดำในสหรัฐและทำให้เกิดความไม่สงบที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐมานานหลายปีแล้ว.-สำนักข่าวไทย