อังกฤษได้ผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่เป็นผู้หญิงผิวดำคนแรก
เคมี เบดะนอค นักการเมืองหญิง วัย 44 ปี เป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ของอังกฤษและเป็นพรรคฝ่ายค้านในปัจจุบัน
เคมี เบดะนอค นักการเมืองหญิง วัย 44 ปี เป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ของอังกฤษและเป็นพรรคฝ่ายค้านในปัจจุบัน
วอชิงตัน 30 ต.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ตัวแทนพรรคเดโมแครตให้สัมภาษณ์รายการวิทยุของนักจัดรายการผิวดำชื่อดังของสหรัฐ หวังเรียกคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจ โดยเฉพาะชายชาวอเมริกันผิวดำ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสโทรศัพท์ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เดอะ เบรกฟาสต์ คลับ” ของชาร์ลาเมญ ทา ก็อด (Charlamagne tha God) เมื่อเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น พูดเรื่องความสำคัญของการต่อสู้กับข้อมูลเท็จด้วยการมองโลกในแง่ดีว่า ความจริงอยู่เหนือเรื่องเท็จและเรื่องโกหกเสมอ ขณะที่ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์จัดการหาเสียงที่เมดิสันสแควร์การ์เดนในนครนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ แล้วปล่อยให้ผู้สนับสนุนขึ้นเวทีพูดจาดูหมิ่นชาวเปอร์โตรีโก คนผิวดำ และชาวยิว หลังจากแฮร์ริสหาเสียงกับชุมชนชาวลาตินอเมริกาและเปอร์โตรีโกในวันเดียวกัน รอยเตอร์อ้างผลสำรวจว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมจากชายอเมริกันผิวดำน้อยกว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเคยได้รับในการเลือกตั้งปี 2563 และว่านับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่สังเวียนการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม แฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำนายทรัมป์มาโดยตลอด แต่เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้วเป็นต้นมา นายทรัมป์เริ่มมีคะแนนตีตื้นไล่หลังใกล้เข้ามา จนล่าสุดคะแนนห่างกันอยู่เพียงจุดเท่านั้น โดยนางแฮร์ริสมีคะแนนร้อยละ 44 และนายทรัมป์ตามมาที่ร้อยละ 43.-816(814).-สำนักข่าวไทย
อีรี 24 ต.ค.- สาธุคุณเจสซี แจ็กสัน นักเคลื่อนไหวผิวดำด้านสิทธิพลเรือน และอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตช่วยหาเสียงให้นางคอมมาลา แฮร์ริสด้วยการประกาศว่า ชายอเมริกันผิวดำจะลงคงคะแนนให้เธอ เพราะเป็นสิ่งที่ควรทำ สาธุคุณแจ็กสัน วัย 83 ปี พบกับกลุ่มคริสตศาสนิกชนเมื่อเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ที่โบสถ์เซคันด์แบ็บติสต์เชิร์ชในเมืองอีรี รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิ หรือสวิงเสตท หรือแบตเทิลกราวด์สเตท ที่แฮร์ริสและโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันมีคะแนนนิยมคู่คี่กัน เขากล่าวขณะนั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีเจสซี แจ็กสัน จูเนียร์ ผู้เป็นบุตรชายคอยช่วยเหลือ เนื่องจากมีปัญหาในการพูดหลังจากตรวจพบว่าป่วยเป็นพาร์กินสันเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน สาธุคุณแจ็กสันกล่าวว่า ชายชาวอเมริกันผิวดำจะออกไปแสดงตัวสนับสนุนแฮร์ริสเพราะเป็นสิ่งที่ควรทำ ส่วนทรัมป์เป็นผู้สมัครที่บ่อนทำลายกระบวนการเลือกตั้ง และไม่ควรมีสิทธิเลือกตั้งเพราะเป็นอาชญากรที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ขณะที่นายแจ็กสัน จูเนียร์ วัย 59 ปี ผู้เป็นบุตรชายกล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะตัดสินกันที่รัฐนี้และเมืองนี้ สมาชิกพรรคเดโมแครตบางคนกังวลเรื่องแฮร์ริสได้รับเสียงสนับสนุนไม่มากนักจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นชายผิวดำ ขณะที่สมาชิกพรรคบางส่วนแย้งว่า เป็นเพราะการหาเสียงในภาพรวมของเธอยังมีพลังไม่มากพอ ผลสำรวจของเอ็นเอเอซีพี (NAACP) ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิพลเรือนใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อเดือนกันยายนพบว่า คนหนุ่มชาวอเมริกันผิวดำมากกว่า 1 ใน 4 […]
นิวยอร์ก 16 ต.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐชี้แจงหลายประเด็นกับนักจัดรายการวิทยุผิวดำชื่อดังของสหรัฐ หลังผลสำรวจชี้ว่าเธอมีคะแนนนิยมจากชายอเมริกันผิวดำน้อยกว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับในการเลือกตั้งปี 2563 รองประธานาธิบดีแฮร์ริสให้สัมภาษณ์ในรายการเดอะเบรคฟาสต์คลับ (The Breakfast Club) กับชาร์ลาเมญ ทา ก็อด (Charlamagne tha God) เมื่อเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น นักจัดรายการวิทยุชื่อดังวัย 46 ปีรายนี้ขึ้นชื่อเรื่องสัมภาษณ์ผู้มีชื่อเสียงอย่างตรงไปตรงมาแบบไม่ถนอมน้ำใจ แม้เขาสนับสนุนแฮร์ริส แต่ก็วิจารณ์เธอและประธานาธิบดีไบเดนมาโดยตลอด ชาร์ลาเมญซึ่งมีชื่อจริงว่า เลนาร์ด แลร์รี แมคเคลวีย์ ยิงคำถามให้แฮร์ริสชี้แจงข่าวลือเรื่องเธอจงใจจับกุมชายอเมริกันผิวดำในช่วงที่เป็นอัยการเขตของนครซานฟรานซิสโก แฮร์ริสตอบว่า ไม่จริงและอ้างว่ามีคนพูดถึงเธอว่าเป็นอัยการที่มีหัวก้าวหน้าในเรื่องกัญชามากที่สุดคนหนึ่ง หากได้เป็นประธานาธิบดี เธอจะทำให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เพราะเรื่องนี้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ประชากรบางกลุ่ม โดยเฉพาะคนดำ ต่อข้อถามว่าเธอจะควบคุมเรื่องตำรวจใช้กำลังและฆาตกรรมคนดำได้อย่างไร แฮร์ริสตอบว่า จะผลักดันร่างกฎหมายการทำงานของตำรวจจอร์จฟลอยด์ที่ค้างในสภามาตั้งแต่ปี 2564 แต่เมื่อชาร์ลาเมญแย้งว่า เธออาจจะไม่ได้เสียงสนับสนุน ซึ่งหมายถึงการที่พรรคเดโมแครตไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แฮร์ริสเผยว่า เธอจะช่วยเลือกสมาชิกสภาที่สนับสนุนเรื่องนี้ พร้อมกับแจกแจงนโยบายเศรษฐกิจสำหรับชายผิวดำ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และลดราคายาให้ถูกลง แฮร์ริสเผยด้วยว่า ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์เผยแพร่ข่าวเท็จ หวังให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำหวาดกลัว และกล่าวหาทรัมป์ว่าเป็นคนอ่อนแอและไม่มีความเหมาะสม.-814.-สำนักข่าวไทย
มินนีแอโพลิส 26 พ.ค.- นักเคลื่อนไหวและชาวเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตาของสหรัฐจัดงานเนื่องในวันครบ 4 ปี ที่จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดที่หลังคอและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 งานรำลึกจัดขึ้นรอบจัตุรัสจอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งเป็น 4 แยกที่ถนนสายที่ 38 ตัดกับถนนชิคาโก อเวนิว และเป็นจุดที่นายฟลอยด์ วัย 46 ปีในขณะนั้นถูกตำรวจใส่กุญแจมือและให้นอนคว่ำหน้า นายเดเรค ชอวิน ตำรวจในขณะนั้นใช้เข่ากดที่หลังคอของเขานาน 8 นาที 46 วินาที มีตำรวจ 1 นายจับหลัง ตำรวจ 1 นายจับขา และตำรวจ 1 นายยืนดู อดีตตำรวจทั้ง 4 นายนี้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา โดยที่นายชอวินถูกตัดสินในปี 2564 ให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 22 ปี 6 เดือน ในข้อหาฆาตกรรม นอกจากนี้ยังมีการทาสีชื่อของฟลอยด์ที่อยู่บนถนนซ้ำใหม่ทุกปี พร้อมกับชื่อของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันอีกหลายคนที่เสียชีวิตเพราะตำรวจในสหรัฐ.-814.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าววว่า ชายผิวขาวคนหนึ่ง มีเหตุจูงใจจากความชิงชังด้านเชื้อชาติยิงชาวผิวดำเสียชีวิต 3 รายในร้านจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดแห่งหนึ่งในเมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐฟลอริดา ก่อนยิงตัวตาย หลังถูกปิดล้อมและเผชิญหน้ากับตำรวจ
เมืองเมมฟิส ในสหรัฐ ตัดสินใจที่จะยุบตำรวจหน่วยพิเศษ ซึ่งตำรวจในหน่วยนี้ก่อคดีทำร้ายร่างกายชายผิวดำจนเสียชีวิต หลังจากคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ที่เผยแพร่ออกมาทำให้ประชาชนรู้สึกตกใจและไม่พอใจอย่างมาก
เมืองเมมฟิส ในสหรัฐ เผยแพร่คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายชายผิวดำวัย 29 ปี จนเสียชีวิต ทำให้เกิดการประท้วงขนาดเล็ก ๆ หลายแห่งตามเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐเพื่อต่อต้านการกระทำที่โหดร้าย แต่เหตุการณ์ไม่ลุกลามบานปลายเป็นเหตุรุนแรงอย่างที่เจ้าหน้าที่หวั่นเกรงกัน
เจ้าหน้าที่สหรัฐตั้งข้อหาฆาตกรรมอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย กรณีทุบตีชายผิวดำคนหนึ่งจนเสียชีวิตที่เมืองเมมฟิส ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของเมืองนี้เตรียมการรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดความไม่สงบ ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เรียกร้องให้ประท้วงอย่างสันติ
ลากูนา วูดส์ 16 พ.ค.- คริสตชนที่โบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐช่วยกันจับมือปืนที่ก่อเหตุยิงคนบาดเจ็บและเสียชีวิตกลางงานเลี้ยงมื้อเที่ยงเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ ทางการยกย่องคริสตชนเหล่านี้ว่า กล้าหาญอย่างยิ่ง เหตุเกิดในขณะที่คริสตชนของโบสถ์ไต้หวันเพรสไบทีเรียนประมาณ 30-40 คนกำลังรับประทานมื้อเที่ยงที่โบสถ์เจนีวาเพรสไบทีเรียนในเมืองลากูนา วูดส์ หลังเสร็จสิ้นการประกอบศาสนกิจตอนเช้า มือปืนก่อเหตุก่อนเวลา 13:30 น. วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น เป็นชายเอเชียวัย 60 ปีเศษ ยิงคนในโบสถ์เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 4 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยที่ไม่ได้เกิดจากกระสุน 1 คน เหยื่อทั้งหมดเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียสูงวัย ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดอายุ 66 ปี เจ้าหน้าที่เผยว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า คริสตชนในโบสถ์ช่วยกันจับเขามัดไว้แล้ว และพบปืนพกในที่เกิดเหตุ 2 กระบอก ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเบื้องต้นหลายอย่าง ทั้งเรื่องแรงจูงใจในการก่อเหตุ มือปืนร่วมประกอบศาสนกิจหรือไม่ มือปืนเป็นสมาชิกโบสถ์หรือไม่ และมือปืนยิงกระสุนไปทั้งหมดกี่นัด อย่างไรก็ดี ขอยกย่องคริสตชนเหล่านี้ว่า มีความกล้าหาญอย่างยิ่งที่ช่วยกันจับมือปืน เพราะหากไม่เข้าขัดขวาง อาจมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มขึ้น ลากูนา วูดส์ อยู่ห่างจากนครลอสแอนเจลิสไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 80 กิโลเมตร เดิมสร้างขึ้นให้เป็นชุมชนอยู่อาศัยของผู้สูงวัย ต่อมาขยายตัวจนกลายเป็นเมือง […]
นิวยอร์ก 15 พ.ค.- มือปืนหนุ่มผิวขาววัย 18 ปีพร้อมอาวุธสงครามและเสื้อเกราะกันกระสุนบุกร้านชำ ท็อป เฟรนด์ลี มาร์เก็ต ในย่านบัฟฟาโลซึ่งเป็นย่านคนผิวดำในรัฐนิวยอร์ก มือปืนสาดกระสุนใส่ยาม พนักงานและลูกค้า ทำให้เสียชีวิตทันที 10 คนและบาดเจ็บอีก 3 คน ในจำนวนผู้ที่เสียชีวิตมียามซึ่งเป็นอดีตตำรวจรวมอยู่ด้วยและยอมจำนนกับตำรวจนิวยอร์กในที่สุด ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุจูงใจน่าจะมาจากความเกลียดชังระหว่างสีผิว เพราะในจำนวนผู้ที่ถูกยิงอย่างไม่เลือกหน้าทั้ง 13 คนนั้นเป็นชาวผิวดำถึง 11 คนและเป็นการก่อเหตุโดยลำพังโดยมือปืนตั้งใจมาก่อเหตุที่ร้านชำแห่งนี้โดยขับรถมาจากบ้านพักเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนลงมือก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย
นิวยอร์ก 3 พ.ย.- อดีตตำรวจผิวดำชนะเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐ ด้วยการชูนโยบายจะทำให้ประชาชนปลอดภัยและให้ชนชั้นแรงงานมีสิทธิมีเสียงมากขึ้น โดยใช้ประสบการณ์ในฐานะอดีตร้อยตำรวจเอกและคนผิวดำที่เคยถูกตำรวจใช้ความรุนแรงขณะเป็นวัยรุ่น นายเอริก อดัมส์ ชาวนครนิวยอร์กโดยกำเนิดจากพรรคเดโมแครต วัย 61 ปี ชนะนายเคอร์ทิส สลิวา จากพรรครีพับลิกัน วัย 67 ปี ในการเลือกตั้งเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ และจะรับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ต่อจากนายบิล เดอ บลาซิโอ จากพรรคเดโมแครตที่จะครบวาระ 8 ปี และจะเป็นนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กผิวดำคนที่ 2 ต่อจากนายเดวิด ดินกินส์ที่เป็นคนแรกในปี 2533-2536 เป็นที่คาดการณ์อยู่แล้วว่า นายอดัมส์จะชนะเลือกตั้งเพราะนครนิวยอร์กเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต ภารกิจที่รอเขาอยู่คือ การฟื้นฟูเมืองใหญ่ที่สุดของสหรัฐจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางรายได้ ราคาที่อยู่อาศัยแพง และโรงเรียนของรัฐกำลังลำบาก นายอดัมส์ประกาศตัวว่า เป็นชาวนิวยอร์กชนชั้นแรงงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกฝ่ายเสรีนิยมในพรรคเดโมแครตละเลย เขาย้ำว่า เศรษฐกิจนครนิวยอร์กไม่มีทางฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ตราบใดที่ไม่มีการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และไม่เห็นด้วยกับที่นักเคลื่อนไหวฝ่ายซัายเรียกร้องให้ยุบสำนักงานตำรวจ เขาเสนอให้รักษาสมดุลระหว่างนโยบายตรวจตราอย่างเข้มงวดกวดขันกับการปฏิรูประบบตำรวจ นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์การถูกตำรวจทุบตีขณะเป็นวัยรุ่น และร่วมก่อตั้งกลุ่มตำรวจผิวดำ 100 นายที่แสดงจุดยืนคัดค้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย