fbpx

ทรัมป์ขู่ตัดสัมพันธ์กับจีน ไม่อยากคุยกับผู้นำจีนแล้ว

วอชิงตัน 15 พ.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแสดงความไม่แน่ใจต่อข้อตกลงการค้าระยะหรือเฟสหนึ่งที่ลงนามไปกับจีน พร้อมเผยว่าไม่อยากคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนแล้ว และคิดว่าสหรัฐจะประหยัดเงินได้มากหากตัดสัมพันธ์กับจีน


ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์โดยยังไม่บันทึกเทปกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์บิซิเนสส์ว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับผู้นำจีน แต่ตอนนี้ไม่อยากคุยด้วยแล้ว จีนไม่ควรปล่อยให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด เขาได้ทำข้อตกลงการค้าที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้บอกได้ว่ารู้สึกไม่เหมือนเดิมและผิดหวังกับจีนมาก หมึกลงนามข้อตกลงยังไม่ทันแห้งก็เกิดโรคระบาด ทำให้เขารู้สึกไม่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม จีนจะซื้อสินค้าอเมริกัน 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8 ล้านล้านบาท) เว็บไซต์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงตั้งข้อสังเกตว่า ข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งที่ทรัมป์ลงนามกับรองนายกรัฐมนตรีหลิว เฮ่อของจีนที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือนมกราคมระบุว่าจีนจะซื้อสินค้าอเมริกันเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.4 ล้านล้านบาท) เป็นเวลาสองปี จึงไม่รู้ว่าทรัมป์เอาตัวเลขอีก 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) มาจากที่ใด

ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบข้อถามเรื่องที่ ส.ว.ทอม คัตตันของพรรครีพับลิกันเสนอเมื่อเดือนก่อนให้งดการให้วีซ่านักศึกษาจีนที่ต้องการมาศึกษาต่อด้านการประมวลผลควอนตัมและปัญญาประดิษฐ์เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติว่า มีหลายเรื่องที่สหรัฐทำได้ หรืออาจตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดไปเลยก็ได้ และจะทำให้สหรัฐประหยัดเงินได้มากถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16 ล้านล้านบาท) เป็นการอ้างถึงตัวเลขมูลค่าการนำเข้าจากจีนต่อปี พร้อมกับตำหนิกลุ่มสนับสนุนให้กระจายศักยภาพการผลิตไปประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกว่า ห่วงโซ่อุปทานแบบโง่ ๆ นี้เมื่อส่วนเล็ก ๆ ของโลกเกิดปัญหา ส่วนรวมก็วุ่นวายไปหมด ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดควรอยู่ในสหรัฐเพราะมีบริษัทที่สามารถทำได้อยู่แล้ว และหากไม่มีก็สร้างขึ้นมาเองได้.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553