สหรัฐ 24 เม.ย.- ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐใกล้แตะระดับ 50,000 คนแล้ว ขณะที่ผู้นำสหรัฐระบุสหรัฐตรวจทดสอบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้มากกว่าประเทศใดในโลก
สหรัฐยังคงอยู่หัวแถวในตารางผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลกจากการระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตขยับเข้าใกล้ 50,000 คน หลังพบผู้เสียชีวิตรายใหม่อีกกว่า 3,100 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็เพิ่มขึ้นเกือบ 27,000 คน ทำให้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 866,000 คน
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกว่า การตรวจทดสอบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของสหรัฐมีความก้าวหน้ามากกว่าประเทศใดในโลก และภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า สหรัฐจะใช้วิธีการตรวจทดสอบเชื้อหลากหลายรูปแบบ เพื่อหยุดยั้งเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดไปทั่วสหรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การเพิ่มการตรวจหาเชื้อและติดตามคนที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ถือเป็นแนวทางสำคัญในการหยุดยั้งไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ผ่านร่างงบประมาณกู้วิกฤติโควิด-19 ก้อนใหม่มูลค่า 484,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ งบจำนวนนี้จะนำไปช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อม โรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งนำไปใช้ในการตรวจทดสอบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ งบประมาณก้อนใหม่นี้ ทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐมีการใช้จ่ายเกี่ยวกับโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังทำให้การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐขยับใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้ตอบคำถามที่ว่า แสงแดดและความร้อน จะนำมาใช้รักษาโรคโควิด-19 ได้หรือไม่ ซึ่งทรัมป์ได้ตอบว่า ให้เอาเรื่องนี้ไปถามแพทย์ว่าจะรักษาได้หรือไม่ ประเด็นในเรื่องนี้ มีต้นตอจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐรายหนึ่งออกมาระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วเมื่อถูกแสงแดด ความร้อน และความชื้น.-สำนักข่าวไทย