อิตาลี 31 มี.ค.- อิตาลีซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก ประกาศขยายเวลามาตรการปิดเมืองหรือล็อกดาวน์ทั่วประเทศไปจนอย่างน้อยกลางเดือนหน้า
นายโรแบร์โต สเปอแรนซา รัฐมนตรีสาธารณสุขอิตาลี ประกาศขยายมาตรการที่ใช้เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปจนถึงเทศกาลอีสเตอร์ หรือวันที่ 12 เมษายน ซึ่งเดิมทีจะครบกำหนดในวันศุกร์นี้
ขณะที่นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการจะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ทำเอาไว้ดีแล้วจะไม่สูญเปล่า การปิดเมืองที่ดำเนินมานานเกือบ 3 สัปดาห์เป็นสิ่งที่หนักหนามากทางเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่อาจอยู่ยาวนานได้ รัฐบาลจะศึกษาหนทางในการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ
ส่วนสถานการณ์โรคโควิด-19 ในอิตาลีมีแนวโน้มดีขึ้น ผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 812 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 11,591 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง ส่วนยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4,050 คน ยอดสะสมอยู่ที่ 101,739 คน อัตราการติดเชื้อของอิตาลีลดลงเหลือร้อยละ 4.1 และยังเป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ป่วยในแคว้นลอมบาร์ดี ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของอิตาลีลดลง โดยเมื่อวานนี้มีจำนวน 25,006 คน จากเดิม 25,392 คน เมื่อวันอาทิตย์
เมื่อวานนี้ สเปนมีผู้เสียชีวิตลดลงเล็กน้อยที่ 812 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 7,340 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็เพิ่มในอัตราลดลงเช่นกันอยู่ที่ร้อยละ 8 ยอดสะสมเพิ่มเป็น 85,195 คน ทำให้สเปนแซงหน้าจีนกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 3 ของโลก
ส่วนฝรั่งเศสเมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิต 418 คน ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,024 คน กลายเป็นประเทศที่ 4 ที่มียอดผู้เสียชีวิตเกิน 3,000 คนต่อจากจีน อิตาลี และสเปน ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 44,550 คน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลคนเสียชีวิตของรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นข้อมูลเฉพาะคนที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลเท่านั้น ยังไม่ได้นับรวมผู้ที่เสียชีวิตตามบ้านพักคนชรา.-สำนักข่าวไทย