20 มี.ค. – ยอดตายโควิด-19 อิตาลีพุ่งแซงหน้าจีน แตะ 3,405 คน หลังเมื่อวานนี้วันเดียวมีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 427 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ฝังและเผาศพไม่ทัน รัฐบาลขยายมาตรการปิดเมืองออกไปอีกจากกำหนดการเดิมให้สิ้นสุดลงวันที่ 25 มี.ค.นี้
ตัวเลขการเสียชีวิตของผู้คนในอิตาลีจากโรคโควิด-19 เมื่อวานนี้ เพียงวันเดียวมากถึง 427 คน ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากทั่วประเทศอิตาลีมากแล้วถึง 3,405 คน มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศจีน ต้นกำเนิดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 3,245 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอิตาลี อยู่ที่ 41,035 ราย และผู้ติดเชื้อในจีนจำนวน 80,928 ราย
สถานการณ์ในอิตาลีรุนแรงถึงขนาดที่กองทัพต้องส่งยานยนต์ลำเลียงกว่า 50 คัน พร้อมทหารหลายสิบนายไปยังเมืองแบร์กาโม ทางตอนเหนือของเมืองมิลาน ในแคว้นลอมบาร์ดี ศูนย์กลางการแพร่ระบาด เพื่อช่วยนำโลงบรรจุศพจำนวนมากไปฝังหรือประกอบพิธีฌาปนากิจนอกพื้นที่ เพราะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่สามารถจัดการกับศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากได้ คนตายเพิ่มขึ้นจนเจ้าหน้าที่ฝังและเผาศพไม่ทัน
ขณะที่รัฐบาลต้องขยายมาตรการปิดเมืองออกไปอีกจากกำหนดการเดิมให้สิ้นสุดลงวันที่ 25 มี.ค.นี้ หลังบังคับใช้มาตรการปิดประเทศมาตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. โดยประชาชนทั่วประเทศถูกร้องขอให้อยู่แต่ในบ้าน ห้ามการชุมนุมกันทั่วประเทศ ธุรกิจร้านค้าส่วนใหญ่ ตลอดจนสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยถูกสั่งปิดทั้งหมด อนุญาตเพียงร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ตเปิดบริการได้เท่านั้น
ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด พุ่งขึ้นถึงกว่า 244,364 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 10,007 ราย ขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ พระชนมายุ 93 พรรษา ทรงส่งพระราชสาส์นเรียกร้องชาวสหราชอาณาจักรร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียวฟันฟ่าอุปสรรคการระบาด ทั้งทรงชื่นชมให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของเหล่านักวิทยาศาสตร์ แพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ประกาศเชื่อมั่นว่าอังกฤษจะผลิกผันสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ภายใน 12 สัปดาห์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอังกฤษล่าสุดอยู่ที่ 3,269 ราย เสียชีวิต 144 ราย
ส่วนที่ราชรัฐโมนาโก รัฐบาลแถลงว่า เจ้าชายอัลแบร์แห่งโมนาโก พระชนมายุ 62 พรรษา ทรงประชวรเป็นโควิด-19 ด้วย แต่พระพลานามัยยังแข็งแรงดี และยังทรงงานอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ส่วนพระองค์ คาดอาจติดเชื้อจากคนใกล้ชิดในคณะรัฐบาล ซึ่งต้องมีการตรวจกันอย่างละเอียด
ก่อนหน้านี้ยังมีรายงานว่า นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าเจรจาเรื่องสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิตของอียู ก็ถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโควิด-19 แต่เขายังสบายดี อาการป่วยของนายบาร์นิเยร์ อาจกระทบการเจรจาการค้าของอังกฤษกับอียูหลังกระบวนการเบร็กซิต
ที่ฝรั่งเศส รัฐบาลกำลังพิจารณาขยายคำสั่งปิดเมืองและห้ามผู้คนออกจากบ้านทั่วประเทศไปอีก 15 วัน ที่ผ่านมาจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งได้แล้ว 4,095 คน ชี้คนพวกนี้คิดว่าตัวเองทำเรื่องเท่ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง แต่ที่จริงแล้วเป็นพวกที่มีความคิดงี่เง่า ทำเรื่องโง่ๆ ต่อทั้งตนเองและผู้อื่นในสังคม
ชาวบราซิลเคาะหม้อไล่ประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง
ส่วนที่บราซิล ประชาชนหลายพันคนประท้วงแสดงความไม่พอใจการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ด้วยการเอาตะหลิวและทัพพีมาเคาะหม้อ กระทะ บนอพาร์ตเมนต์ในเมืองเซาเปาโล รีโอเดจาเนโร และอีกหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ชาวบ้านบอกว่าผู้นำประเทศประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป ไม่สนใจปัญหา พร้อมเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งก่อนสถานการณ์จะรุนแรงกว่านี้
รัฐบาลนายโบลโซนาโร ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าล่าช้าในการดำเนินมาตรการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่นายโบลโซนาโรมักแสดงความเห็นว่าผู้คนหวาดกลัวการแพร่ระบาดของโรคมากเกินไป อีกทั้งก่อนหน้านี้ ยังปรากฏภาพเขาจับมือและถ่ายรูปเซลฟี่ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้สนับสนุน ทั้งๆ ที่มีการรณรงค์หลีกเลี่ยงการชุมนุมสัมผัสกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
นายโบลโซนาโร กล่าวสุนทรพจน์ทางสถานีโทรทัศน์ เพื่อประกาศนโยบายฉุกเฉินในการรับมือการแพร่ระบาด และยอมรับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศอาจเพิ่มขึ้น แต่ขอให้ชาวบราซิลอย่ากังวลกับเรื่องนี้มากเกินไป จนถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในบราซิลแล้วกว่า 620 คน ในจำนวนนี้รวมถึงรัฐมนตรีในรัฐบาล 2 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน ส่วนนายโบลโซนาโรเข้ารับการตรวจหาเชื้อแล้ว 2 ครั้ง ผลตรวจเป็นลบ. – สำนักข่าวไทย