ปารีส 9 มี.ค.- ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไออีเอ (IEA) คาดการณ์ก่อนมีข่าวสงครามราคาน้ำมันในวันนี้ว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปีนี้ลดลงต่อปีเป็นครั้งแรกนับจากวิกฤตการเงินโลกปี 2552
ไออีเอออกรายงานล่าสุดในวันนี้ เป็นการประเมินก่อนที่ซาอุดีอาระเบียเปิดฉากทำสงครามราคาน้ำมันด้วยการลดราคาครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปีเนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) และรัสเซียตกลงกันไม่ได้ในการประชุมเดินหน้าลดกำลังผลิต ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกดิ่งลงถึงร้อยละ 30 ในการซื้อขายบางช่วงเช้าวันนี้ รายงานของไออีเอปรับลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันของโลกลงวันละ 1.1 ล้านบาร์เรลจากที่เคยประมาณการไว้ เท่ากับโลกจะใช้น้ำมันลดลงจากปีก่อนวันละ 90,000 บาร์เรล เป็นการลดลงต่อปีครั้งแรกนับจากปี 2552 โดยอ้างตามสมมติฐานว่าโควิด-19 ยังคงระบาดทั่วโลก แต่จีนสามารถจำกัดการระบาดได้ภายในสิ้นเดือนนี้ แต่หากเศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ความต้องการใช้น้ำมันของโลกก็อาจลดลงจากปีก่อนมากถึงวันละ 730,000 บาร์เรล
ไออีเอประมาณการการใช้น้ำมันโลกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ลดลงวันละ 4.2 ล้านบาร์เรลจากเดือนเดียวกันปีก่อนหรือราวร้อยละ 4.5 ในจำนวนนี้ 3.6 ล้านบาร์เรลเป็นการลดลงในจีน ผู้เชี่ยวชาญของไออีเอชี้ว่า วิกฤตไวรัสโคโรนากระทบตลาดพลังงานเป็นวงกว้าง ทั้งถ่านหิน น้ำมัน และพลังงานหมุนเวียน แต่ตลาดน้ำมันได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เพราะผู้คนและสินค้าถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงสำหรับยานพาหะลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะจีน ประเทศที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโลก.-สำนักข่าวไทย