ศาลฎีกาสหรัฐตกลงไต่สวนเรื่องทรัมป์ไม่เปิดเผยข้อมูลภาษีและการเงิน

วอชิงตัน 14 ธ.ค.- ศาลฎีกาสหรัฐตกลงจะเปิดการไต่สวนในเดือนมีนาคมปีหน้าในประเด็นที่ยังเป็นปัญหาเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีและข้อมูลการเงิน ด้านคณะกรรมการตุลาการในสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบให้ไต่สวนเพื่อถอดถอนทรัมป์ 


ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำชี้ขาดให้ทรัมป์เปิดเผยข้อมูลตามที่อัยการนครนิวยอร์กและคณะกรรมการหลายชุดในสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากยื่นคำร้อง ทนายความของเขายื่นฎีกาอ้างว่า ทรัมป์มีเอกสิทธิคุ้มครองในฐานะประธานาธิบดีที่จะไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล ศาลฎีกาแถลงเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะเปิดไต่สวนรับฟังคำให้การของทั้งสองฝ่ายในเดือนมีนาคมและจะมีคำชี้ขาดก่อนศาลปิดสมัยประชุมสิ้นเดือนมิถุนายนว่า ประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งควรมีเอกสิทธิคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีอาญาในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนรับตำแหน่งหรือไม่ ศาลฎีกาสหรัฐมีผู้พิพากษาสายอนุรักษ์นิยม 5 คนจากทั้งหมด 9 คน และในจำนวนนี้ 2 คนได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ 

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน คณะกรรมการตุลาการในสภาผู้แทนราษฎรลงมติ 23 ต่อ 17 เสียง หลังจากอภิปรายกันนาน 14 ชั่วโมง เสนอแนะให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์เพราะทำความผิดตามที่รัฐธรรมนูญระบุให้ถอดถอนหากทำความผิดร้ายแรงหรือความผิดลหุโทษ คณะกรรมการระบุว่า ทรัมป์ทำความผิดเรื่องการใช้อำนาจโดยมิชอบกรณีตั้งเงื่อนไขให้ความช่วยเหลือทางทหารและให้เข้าพบที่ทำเนียบขาว โดยที่ยูเครนต้องสอบสวนการทำธุรกิจของนายโจ ไบเดน ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปีหน้า และทำความผิดเรื่องขัดขวางรัฐสภาด้วยการไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติตามที่คณะกรรมการเสนอ และจะทำให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนที่สามของประเทศที่ถูกไต่สวนเพื่อถอดถอนตามหลังประธานาธิบดีพรรคเดโมแครตสองคนคือ แอนดรูว์ จอห์นสันในปี 2411 และบิล คลินตันในปี 2541.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย