เจนีวา 26 พ.ย. – สหประชาชาติกล่าวในรายงานการประเมินแก๊สที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกประจำปีว่า โลกจะไม่มีโอกาสจะรอดพ้นภัยพิบัติที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศ หากยังไม่ลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก
สหประชาชาติกล่าวในรายงานว่าด้วยแก๊สเรือนกระจกว่า โลกจะต้องลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจำให้ได้ร้อยละ 736 ต่อปี ไปจนถึงปี 2030 เพื่อจำกัดอุณหภูมิให้ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในข้อตกลงปารีสเมื่อปี 2015 คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวเตือนเมื่อปีที่แล้วว่า โลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการปล่อยแก๊สเรือนกระจกให้ได้ตามเป้าหมาย เช่น ปะการังจะตายเกือบทั้งหมดและน้ำแข็งในทะเลที่อาร์คติก ในขั้วโลกเหนือจะแทบไม่มีเหลือ รายงานของโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติฉบับนี้ เป็นหนึ่งในผลการศึกษาหลายเรื่องที่เผยแพร่ก่อนการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะจัดขึ้นที่สเปนในสัปดาห์หน้า รายงานฉบับนี้ยังกล่าวด้วยว่า การลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกที่ประเทศต่าง ๆ ประกาศไว้นั้น จะทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3.2 องศาเซลเซียส ในศตวรรษนี้ ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างและมีความเสียหายมาก รายงานระบุด้วยว่า ระดับอุณหภูมิที่ปลอดภัยที่สุดคือไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ตามที่หลายประเทศเห็นพ้องในการประชุมที่กรุงปารีส และเป็นระดับที่ยังสามารถทำได้ แต่ทั่วโลกจำเป็นต้องลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 7.6 ต่อปี ระหว่างปี 2020-2030.-สำนักข่าวไทย