นักวิชาการฟิลิปปินส์ชี้จีนจะช่วยอาเซียนได้มากในหลายเรื่อง

มะนิลา 1 พ.ย.- นักวิชาการฟิลิปปินส์มองว่า จีนจะสามารถช่วยสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนได้มากในการทำให้ประชาคมอาเซียนแน่นแฟ้นขึ้น เพราะจีนมุ่งเสริมสร้างการค้าและการลงทุนกับอาเซียนที่มีสมาชิก 10 ประเทศ


นายลูซิโอ ปิตโล นักวิชาการโครงการจีนศึกษา มหาวิทยาลัยอาตีนีโอ เดอ มะนิลาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวของจีนก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องที่ไทยว่า จีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญของอาเซียนและจะช่วยอาเซียนได้มากเพราะมีประสบการณ์เรื่องการลดความยากจน มีตลาดขนาดใหญ่ มีศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต มีการลงทุนที่มุ่งต่างประเทศ มีเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ความร่วมมือในเรื่องเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เขามองว่า ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของจีนกับอาเซียนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการพัฒนาและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้

นายปิตโลชี้ว่า อาเซียนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของจีนในการทำให้ประชากร 800 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนได้ภายในเวลา 40 ปีของการปฏิรูปและเปิดประเทศ ส่วนเรื่องความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน เขามองว่า แผนแม่บทเรื่องความเชื่อมโยงในอาเซียน (ASEAN Connectivity) และโครงการเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 ที่เป็นความริเริ่มของจีน (Belt and Road Initiative) มีจุดบรรจบกันอย่างชัดเจน เอื้อต่อการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ร่วมกัน 


นายปิตโลระบุว่า เศรษฐกิจจะเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกัน ปีที่แล้วมูลค่าการค้าของสองฝ่ายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 587,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.73 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 จากปี 2560 และในช่วงครึ่งแรกของปีนี้อาเซียนแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นคู่ค้าอันดับสองของจีนเป็นครั้งแรก คาดว่ามูลค่าการค้าตลอดทั้งปีนี้จะแตะ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18 ล้านล้านบาท) ขณะที่จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอาเซียนอย่างต่อเนื่องมานานร่วมทศวรรษ และเป็นตลาดนักท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของอาเซียนไปแล้ว ส่วนเรื่องความมั่นคง อาเซียนและจีนเลือกใช้การเจรจาหารือแก้ไขความเห็นต่างและรับปากจะปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

หมายจับกฤษอนงค์

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา-เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” หลังตำรวจนำสำนวนขอศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (16 พ.ย.) เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก 2 แห่ง ใน กทม. และปทุมธานี

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้