กรุงเฮก 17 พ.ค.- ตำรวจหลายประเทศร่วมกันสอบสวนจนนำไปสู่การทลายแก๊งอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้มัลแวร์ขโมยเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,174 ล้านบาท) จากเหยื่อกว่า 40,000 ราย
องค์การตำรวจยุโรปแถลงรายละเอียดปฏิบัติการที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์วานนี้ว่า ผลการร่วมกันสอบสวนอย่างกว้างขวางและไม่เคยมีมาก่อนทั้งในสหรัฐ บัลแกเรีย เยอรมนี จอร์เจีย มอลโดวา และยูเครนนำมาซึ่งการทลายแก๊งที่ใช้มัลแวร์กอซนีม (GozNym) ขโมยรายละเอียดการทำธุรกรรมธนาคารออนไลน์เพื่อเข้าถึงบัญชีธนาคารของเหยื่อ สมาชิกแก๊งล้วนเป็นอาชญากรที่ใช้กระดานสนทนาออนไลน์อวดอ้างความสามารถการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ประกอบด้วยสมาชิก 10 คนที่ถูกตั้งหลายข้อหาในเมืองพิตต์สเบิร์กของสหรัฐ เช่น ขโมยเงิน ฟอกเงิน โดยใช้บัญชีธนาคารสหรัฐและต่างชาติ สมาชิกชาวรัสเซีย 5 คนที่ยังหลบหนีอยู่ หนึ่งในนั้นเป็นผู้พัฒนามัลแวร์กอซนีมและให้อาชญากรไซเบอร์รายอื่นเช่าไปใช้ หัวหน้าแก๊งและผู้ช่วยทางเทคนิคที่ถูกตั้งข้อหาในจอร์เจีย สมาชิกทำหน้าที่ดูแลบัญชีธนาคารต่าง ๆ ที่ถูกเนรเทศจากบัลแกเรียนมาดำเนินคดีในสหรัฐ สมาชิกเข้ารหัสมัลแวร์ทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ไม่สามารถตรวจจับได้ที่ถูกดำเนินคดีในมอลโดวา และสมาชิกอีกสองคนที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินในเยอรมนี
เหยื่อที่ถูกขโมยเงินในบัญชีมีทั้งธุรกิจขนาดเล็ก บริษัทกฎหมาย บรรษัทข้ามชาติ ไปจนถึงองค์กรไม่แสวงหากำไร ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มองว่า กรณีนี้ทำให้เห็นว่าการซื้อขายทักษะการก่ออาชญากรรมไซเบอร์เป็นเรื่องที่พบได้โดยทั่วไป ผู้พัฒนามัลแวร์โฆษณาสินค้าตัวเองให้อาชญากรคนอื่นนำไปใช้ต่อ ราวกับว่าการก่ออาชญากรรมคือบริการอย่างหนึ่ง เปิดทางให้แก๊งอาชญากรรมเปลี่ยนจากการค้ายาเสพติดมาก่ออาชญากรรมไซเบอร์แทน กอซนีมเป็นการนำมัลแวร์สองตัวมารวมกันคือ นีมาอิม (Nymaim) กับ โกซี (Gozi) ตัวแรกเป็นซอฟต์แวร์นำทางให้มัลแวร์ตัวอื่นเข้าไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แล้วติดตั้งมัลแวร์ตัวนั้น ถูกใช้เรียกค่าไถ่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์จนถึงปี 2558 ส่วนตัวหลังอาละวาดมาตั้งแต่ปี 2550 และมีเทคนิคใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ เพื่อขโมยข้อมูลการเงิน และเคยถูกใช้โจมตีธนาคารสหรัฐพร้อม ๆ กันมาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งเปรียบเทียบการรวมมัลแวร์สองตัวร้ายนี้ว่า ไม่ต่างจากการสร้างอสูรร้ายสองหัว.- สำนักข่าวไทย