วอชิงตัน 7 พ.ค.- ผลสำรวจล่าสุดของกัลลัพพบว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐมีคะแนนนิยมมากที่สุดนับตั้งแต่รับตำแหน่ง แม้ว่ายังคงเป็นประธานาธิบดีคนเดียวในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐที่ไม่เคยมีคะแนนนิยมแตะร้อยละ 50 ก็ตาม
ผลสำรวจของกัลลัพเมื่อเดือนเมษายนพบว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีคะแนนนิยมร้อยละ 46 มากที่สุดนับตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2560 ซึ่งครั้งนั้นได้คะแนนนิยมร้อยละ 45 ขณะที่ผู้ไม่ชอบเขายังคงอยู่ที่ร้อยละ 50 นายคริส ซิลลิซซา บรรณาธิการบริหารซีเอ็นเอ็นมองว่า คะแนนที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 ถือว่าไม่เลวนักสำหรับประธานาธิบดีอย่างทรัมป์ที่พยายามประคับประคองคะแนนนิยมไม่ให้ต่ำกว่าร้อยละ 40 ปัจจัยที่ทำให้ทรัมป์มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นน่าจะมาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ในไตรมาสแรกของปีนี้
หากแยกเป็นชาวรีพับลิกันและชาวพรรคเดโมแครตพบว่า ชาวรีพับลิกัน 9 ใน 10 ยังคงนิยมทรัมป์ในเดือนเมษายนเท่ากับเดือนมีนาคม ขณะที่ชาวเดโมแครตนิยมทรัมปเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4 เป็นร้อยละ 10 ส่วนผู้ไม่สังกัดพรรคนิยมเขาเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 33 เป็นร้อยละ 39
บรรณาธิการบริหารซีเอ็นเอ็นมองด้วยว่า รายงานสรุปผลการสอบสวนของนายโรเบิร์ต มุลเลอร์เรื่องรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งสหรัฐปี 2559 ไม่มีผลเชิงลบต่อคะแนนนิยมทรัมป์ รายงานหนา 448 หน้าไม่พบว่าคณะหาเสียงของทรัมป์คบคิดกับรัสเซีย และไม่ชี้ว่าควรตั้งข้อหาทรัมป์ว่าขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ จึงอาจเป็นไปตามที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ประชาชนจะลงคะแนนเลือกคนที่ตัวเองไม่ชอบหากคิดว่าเลือกแล้วจะเป็นผลดี.-สำนักข่าวไทย