โคลัมโบ 22 เม.ย. – จับกุม 13 ผู้ต้องสงสัยเหตุวางระเบิดป่วนเมืองหลวงศรีลังกา โดยยอดผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน และบาดเจ็บเกือบ 500 คน ขณะที่ตำรวจเผยก่อนเกิดเหตุมีบันทึกเตือนการโจมตี แต่นายกฯ ศรีลังกาแถลงไม่ได้รับรายงานแจ้งเตือนดังกล่าว
ตำรวจศรีลังกาจับกุมผู้ต้องสงสัย 13 คน ซึ่งพัวพันกับเหตุวางระเบิดโบสถ์ และโรงแรมหลายแห่งเมื่อวานนี้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 300 คน และบาดเจ็บราว 500 คน
ทางการศรีลังกาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับ โดยบอกแต่เพียงว่าทั้งหมดถูกควบคุมตัวได้ในสถานที่ 2 แห่ง ทั้งในและรอบๆกรุงโคลัมโบ ขณะที่แหล่งข่าวรายงานว่า ทั้งหมดเป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นเหตุรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในศรีลังกาหลังสงครามกลางเมืองยุติลงเมื่อ 10 ปีก่อน
เหตุระเบิดเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันฉลองเทศกาลอีสเตอร์ของชาวคริสต์ เกิดขึ้นใน 8 จุดทั้งในและรอบๆกรุงโคลัมโบ ส่วนใหญ่เป็นการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย โดยเกิดขึ้นที่โรงแรม โบสถ์ และเกสต์เฮ้าส์ รัฐบาลศรีลังกาเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 290 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวศรีลังกา และมีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 32 คน บาดเจ็บ 30 คน ได้แก่ ชาวอังกฤษ อเมริกัน เดนมาร์ก ตุรกี โปรตุเกส จีน และญี่ปุ่น หลังเกิดเหตุ รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานเวลากลางคืนหรือเคอร์ฟิวทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 18.00 น.วานนี้ถึง 06.00 น. วันนี้ และปิดกั้นการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และยูทูบ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดๆ
ด้านแหล่งข่าวตำรวจศรีลังกาได้เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ก่อนเกิดเหตุระเบิดได้มีบันทึกที่ลงนามโดยรองจเรตำรวจลงวันที่ 11 เมษายน เตือนให้ระมัดระวังเหตุโจมตี และขอให้เพิ่มการรักษาความปลอดภัย โดยรัฐมนตรีกระทรวงโทรคมนาคมศรีลังกาได้ทวีตภาพถ่ายบันทึกดังกล่าวเผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ แต่ล่าสุดนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ของศรีลังกาแถลงว่า เขาไม่ได้รับรายงานการแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุโจมตีที่อาจเกิดขึ้น และสิ่งสำคัญในตอนนี้คือการจับกุมตัวผู้กระทำผิด โดยจะสอบสวนถึงความเชื่อมโยงระหว่างต่างชาติกับกลุ่มหัวรุนแรงในศรีลังกาด้วย
ขณะที่เมื่อเย็นวานนี้ กองทัพอากาศศรีลังกาได้ปลดชนวนระเบิดไปป์บอมบ์ที่พบใกล้สนามบินบันดารานายาเกในกรุงโคลัมโบได้สำเร็จ เชื่อว่าเป็นระเบิดที่คนร้ายผลิตขึ้นเอง ส่วนสนามบินยังคงเปิดให้บริการตามปกติโดยมีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด. – สำนักข่าวไทย