โคลัมโบ 24 เม.ย.- เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำศรีลังกามองว่า ขนาดและความซับซ้อนของระเบิดหลายระลอกที่เกิดขึ้นกับโรงแรมและโบสถ์หลายแห่งในวันอีสเตอร์บ่งชี้ว่า น่าจะมีกลุ่มต่างชาติอย่างรัฐอิสลาม หรือไอเอส เกี่ยวข้อง แย้งกับที่ทางการศรีลังกามองว่าเป็นฝีมือของกลุ่มในประเทศ
นางอาไลนา เทปลิตซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำศรีลังกาแสดงความเห็นกับสื่อในกรุงโคลัมโบวันนี้ว่า หากพิจารณาจากขนาดของการก่อเหตุ ระดับการประสานงาน และความซับซ้อน ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะมีกลุ่มต่างชาติเกี่ยวข้อง ดังนั้นการสอบสวนจึงต้องตรวจดูความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้เหล่านี้ นางเทปลิตซ์กล่าวเรื่องนี้หลังจากกลุ่มไอเอสอ้างเมื่อวานนี้ว่า เป็นคนก่อเหตุแต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนการกล่าวอ้าง ขณะที่ทางการศรีลังกากล่าวโทษว่า เป็นฝีมือของกลุ่มมุสลิมสองกลุ่มในประเทศ
รัฐมนตรีช่วยกลาโหมศรีลังกาเปิดเผยรายละเอียดกลุ่มมือระเบิดฆ่าตัวตายทั้ง 9 คนว่า มีการศึกษาดี ครอบครัวฐานะดี หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงด้วย คนร้ายคนหนึ่งเคยไปอังกฤษและไปศึกษาต่อด้านกฎหมายที่ออสเตรเลีย เขาแถลงต่อสภา ยอมรับว่ามีความบกพร่องอย่างร้ายแรงเรื่องการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง ขณะที่รัฐมนตรีรัฐวิสาหกิจชี้ว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงบางคนจงใจปกปิดข่าวกรองเรื่องคนร้ายอาจเตรียมก่อเหตุ ข้อมูลมีอยู่แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงนิ่งเฉย ข่าวกรองอินเดียแจ้งมาตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนแล้วว่าอาจเกิดระเบิดฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นสามวันมีการประชุมสภาความมั่นคงที่มีประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา เป็นประธาน แต่กลับไม่มีการแบ่งปันข่าวกรองอย่างทั่วถึง
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโบสถ์สามแห่ง โรงแรมสี่แห่งเมื่อวันอีสเตอร์เพิ่มเป็น 359 คนแล้ว มากที่สุดในประวัติศาสตร์ศรีลังกา และมีผู้บาดเจ็บราว 500 คน ประชากรศรีลังกา 22 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ที่เหลือเป็นคริสต์ชน มุสลิม และฮินดู.- สำนักข่าวไทย