วอชิงตัน 2 ต.ค.- สำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เดินหน้าสอบสวนข้อกล่าวหานายแบรตต์ แควะนอ ผู้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอชื่อเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาประพฤติมิชอบทางเพศสมัยเรียน โดยได้สอบปากคำทั้งผู้กล่าวหาและเพื่อนสมัยเรียน
คริสทีน เบลซี ฟอร์ด อาจารย์มหาวิทยาลัยระบุชื่อนายมาร์ก จัดจ์ เพื่อนสมัยมัธยมของนายแควะนอว่าอยู่ในห้องที่นายแควะนอล่วงละเมิดทางเพศเธอในงานเลี้ยงปี 2525 และว่านายจัดจ์และนายแควะนออยู่ในสภาพเมามาย ทั้งคู่ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ทนายความของนายจัดจ์เผยว่า เอฟบีไอได้สอบปากคำลูกความแล้วแต่ยังไม่เสร็จสิ้น นายจัดจ์เขียนหนังสือหลายเล่ม มีทั้งเรื่องการเมาสุราของเด็กรุ่นใหม่และเรื่องการเป็นเพิ่งเป็นคาทอลิกทั้งที่เรียนโรงเรียนคาทอลิกมาร่วม 20 ปี ส่วนเพื่อนมัยธยมอีกคนที่ ดร.ฟอร์ดอ้างว่าอยู่ในงานเลี้ยงด้วยปฏิเสธกับเอฟบีไอว่า ไม่ทราบเรื่องงานเลี้ยงหรือเรื่องนายแควะนอประพฤติมิชอบทางเพศ
เอฟบีไอยังได้สอบปากคำนางเดบอราห์ รามิเรซ สตรีที่กล่าวหานายแควะนอว่าคุกคามทางเพศสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ส่วนสตรีที่อ้างว่าเห็นนายแควะนอเมาหนักอยู่เสมอและประพฤติมิชอบทางเพศกับสตรีคนหนึ่งในต้นคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 เอฟบีไอยังไม่สอบปากคำแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยคนหนึ่งออกมาอ้างกับสื่อว่า นายแควะนอโกหกเรื่องการดื่มสุราระหว่างให้การต่อวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งที่จริงแล้วเป็นคนดื่มหนักและมักมีพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อเมา ด้านวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต 9 ใน 10 คนที่อยู่ในคณะกรรมการตุลาการในวุฒิสภาส่งรายชื่อบุคคล 24 คนให้เอฟบีไอพิจารณาสอบปากคำ
คณะกรรมการตุลาการในวุฒิสภาสหรัฐลงมติรับรองให้นายแควะนอ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์เขตดิสทริกออฟโคลัมเบียวัย 53 ปี เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนการลงมติรับรองในวุฒิสภาถูกเลื่อนออกไปหนึ่งสัปดาห์ตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งให้เอฟบีไอเข้ามาสอบสวนตามที่ถูกกดดันจากสมาชิกพรรครีพับลิกันสายกลาง การรับรองนายแควะนอเป็นเดิมพันทางการเมืองก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกลางสมัยวันที่ 6 พฤศจิกายน พรรครีพับลิกันอยากให้ศาลฎีกามีผู้พิพากษาสายอนุรักษ์นิยมเพิ่มอีกหนึ่งคนรวมเป็น 5 คน มากกว่าผู้พิพากษาสายเสรีนิยมที่มีอยู่ 4 คน เพราะจะมีผลต่อการชี้ขาดประเด็นที่สังคมอเมริกันยังถกเถียงกันอยู่ เช่น คนเข้าเมือง สิทธิคนกลุ่มน้อยในสังคม แต่เมื่อนายแควะนอถูกกล่าวหาประพฤติมิชอบทางเพศ ทำให้รีพับลิกันบางส่วนเกรงว่าอาจทำให้พรรคเสียคะแนนเสียงสตรีไปให้พรรคเดโมแครต.- สำนักข่าวไทย