อิสราเอล 3 ก.ย.-อิสราเอลกำลังประสบปัญหาความแห้งแล้งติดต่อกันนานถึง 5 ปี กำลังส่งผลกระทบต่อการเกษตรและการท่องเที่ยวของอิสราเอล ขณะที่การแก้ปัญหาของรัฐบาลก็ยังไม่เป็นที่ถูกใจของทุกคน
โอเฟอร์ มอสโควิทซ์ เกษตรกรชาวอิสราเอล บอกว่าตามปกติแล้วในแต่ละปีเขาสามารถปลูกพืชผลได้มากกว่า 1 อย่างแต่ในเวลานี้จำเป็นต้องเลือกปลูกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นเนื่องจากมีน้ำทำการเกษตรไม่เพียงพอ เขาจึงเลือกปลูกอโวคาโด และยกเลิกการปลูกข้าวสาลี มอสโควิทซ์บอกว่าในเขตอัพเปอร์ กาลิลี ที่เขาอาศัยอยู่นั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมามีปริมาณฝนลดลงไปมากจากที่เคยวัดได้ปีละ 700 มิลลิเมตร ก็เหลือเพียง 300-400 มิลลิเมตรเท่านั้น
ขณะที่สภาพพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล ก็เปลี่ยนแปลงไปมากทั้งพื้นที่ทำการเกษตรและสภาพทางธรรมชาติ ทางการระบุว่าน้ำพุธรรมชาติในเขตอนุรักษ์เทลแดน จะแห้งลงภายในสองเดือนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ นอกจากนี้แม่น้ำสายต่างๆ ก็กำลังแห้งลงอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก การเพิ่มจำนวนประชากรและมีการใช้น้ำทำการเกษตรมากขึ้น
รัฐบาลอิสราเอล วางแผนจะสร้างโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในระยะ 10-12 ปีต่อจากนี้ โดยน้ำที่ผลิตได้จะนำไปใช้ครัวเรือน ทำการเกษตร และเติมความอุดมสมบูรณ์ให้กับแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่เจ้าหน้าที่อุทยานของอิสราเอล เผยว่า น้ำจืดที่ได้จากน้ำทะเลมีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมกับแหล่งน้ำธรรมชาติเพราะมีปริมาณแร่ธาตุต่ำมาก ขณะที่เกษตรกรก็มองว่าการผลิตน้ำจืดด้วยวิธีดังกล่าวอาจจะแพงเกินไปสำหรับใช้ทำการเกษตรและกังวลว่ารัฐบาลอาจผลักภาระเรื่องต้นทุนให้แก่เกษตรกรได้.-สำนักข่าวไทย