ลอสแอนเจลิส 12 ก.ค.- ค่ายหนังสหรัฐเตรียมถ่ายทอดเรื่องราวความน่าประทับใจในปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าและโค้ชรวม 13 คนที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนออกสู่สายตาคอหนังทั่วโลกแล้วในแบบฉบับของฮอลลีวูด
ก่อนหน้านี้ปฏิบัติการกู้ภัยคนงานเหมืองชิลี 33 คนที่ติดอยู่ภายในเหมืองใต้ดินนาน 69 วันเมื่อปี 2553 ได้รับการถ่ายทอดสู่ภาพยนตร์ปี 2558 ในชื่อเรื่อง “The 33” ที่มีแอนโตนิโอ แบนเดอร์รัสนำแสดง ค่ายหนังสองแห่งของสหรัฐลงพื้นที่ถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงรายเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าที่นำโดยหน่วยซีลของไทยและทีมช่วยเหลือนานาประเทศ ประธานสตูดิโอฮอลลีวูดแถลงว่า รัฐบาลไทยเลือกค่ายไอแวนโฮ พิกเชอร์ซึ่งมีสำนักงานในสหรัฐและเอเชียดำเนินการผลิตภาพยนตร์ โดยได้จอน เอ็ม.ชู ผู้กำกับเลือดเอเชียช่วยถ่ายทอดเรื่องราวให้มีความสมจริงใกล้เคียงมากที่สุด ขณะที่ยังมีค่ายหนังอีกหลายแห่งสนใจติดต่อนำเรื่องราวไปสร้างหนังเช่นกัน จอน ชู โพสต์ลงทวิตเตอร์ @jonmchu ว่า ภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าเป็นเรื่องราวที่สวยงามของการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจะถ่ายทอดออกมาให้ถูกต้อง สมจริง และด้วยความเคารพยกย่องอย่างที่สุด โดยจะไม่ให้ความเป็นฮอลลีวูดมาเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์จริงของการช่วยเหลือทีมหมูป่า ส่วนบริษัทเพียวฟลิกซ์ที่มีสำนักงานในสหรัฐและผลิตหนังที่มีเนื้อหาแนวครอบครัวและคริสเตียนเล็งสร้างหนังจากเหตุการณ์จริงนี้เช่นกัน ไมเคิล สกอตต์ ผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพียวฟลิกซ์ซึ่งพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยกล่าวว่า ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ได้ลงพื้นที่เพื่อสัมภาษณ์หน่วยกู้ภัยรวมถึงเรื่องราวของจ.อ.สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติภารกิจ สกอตต์เผยว่า ชาวไทย ตะวันตก ยุโรป ออสเตรเลีย และผู้คนจากทั่วโลกต่างมาร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อช่วยเหลือเยาวชนออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย และคิดว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอีกหลายล้านคนทั่วโลก
อย่างไรก็ตามการนำเรื่องราวดราม่าของเด็กทีมหมูป่ามาถ่ายทอดสู่ภาพยนตร์ มีอุปสรรคจากปัญหาทางกฎหมายคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน โค้ช และทีมกู้ภัย รวมทั้งการถ่ายทอดเรื่องราวการผจญภัยและกู้ภัยให้สมจริงจะต้องใช้ทุนสร้างมหาศาล ทางด้านสถานีโทรทัศน์เอบีซีสหรัฐได้ออกอากาศรายการพิเศษ “20/20” เรื่องปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า ส่วนช่องดิสคัฟเวอรีแชนแนลจะออกอากาศหนังสารคดี 1 ชม.ในวันศุกร์ .-สำนักข่าวไทย