นิวยอร์ก 6 ก.ค.- แพทย์ชาวอเมริกันระบุว่า เหตุเยาวชนไทย 13 คนติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนแสดงให้เห็นว่า ความกลัวและความกล้าเป็นสิ่งที่สามารถติดต่อกันได้ และเชื่อว่าภารกิจนำเด็กออกจากถ้ำจะประสบความสำเร็จในที่สุด
ดร.มาร์ก ซีเกิล ศูนย์การแพทย์ลานกอน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ผู้สื่อข่าวด้านการแพทย์และนักเขียนคอลัมน์ให้ฟ็อกซ์นิวส์รวมทั้งสื่ออเมริกันอีกหลายแห่งเขียนบทความในคอลัมน์ความคิดเห็นของเว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ในวันนี้ว่า มีสัญญาณดี ๆ หลายอย่างว่าภารกิจการนำเยาวชนไทยทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนจะประสบความสำเร็จได้ในที่สุด แม้ว่ามีอุปสรรคมากมายและยังไม่แน่ใจว่าจะใช้เทคนิคใดนำเด็กออกมา ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำออกจากถ้ำหรือการเจาะถ้ำ
ดร.ซีเกิลระบุว่า เด็กกลุ่มนี้มีความกลมเกลียว มีทักษะในการพึ่งพากันแลกกัน และมีคณะนักดำน้ำประสบการณ์สูงที่กำลังตระเตรียมนำตัวออกมาอย่างเป็นระบบและไม่ตื่นตระหนก เด็ก ๆ แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและกำลังใจที่แข็งแกร่งขณะติดอยู่ในถ้ำโดยไม่รู้ว่าจะมีคนมาพบหรือไม่ และเมื่อนักดำน้ำพบหลังจากติดอยู่นานถึง 9 วัน พวกเขาก็ยังมีสติและสงบ หลายคนยังหัวเราะได้ และให้ความมั่นใจกับผู้ช่วยเหลือว่าพวกเขายังไหว สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเด็ก ๆ สามารถควบคุมอารมณ์ในด้านลบของตัวเองได้ ดังที่เขาเคยเขียนไว้ในหนังสือเรื่อง False Alarm; the Truth about the Epidemic of Fear ว่า ความกลัวและความกล้าเป็นสิ่งที่ติดต่อกันได้ และการหัวเราะคือยาถอนความกลัวได้
แพทย์นักเขียนชาวอเมริกันแนะนำว่า ในระหว่างที่รอออกจากถ้ำเด็ก ๆ ควรมีสติและสงบต่อไปเพื่อดูแลตัวเองไม่ให้แพร่เชื้อแบคทีเรียที่อาจติดมาในถ้ำและล้มป่วยเพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการออกไป ขณะเดียวกันต้องดูแลเรื่องน้ำดื่มและสิ่งขับถ่ายอย่างระมัดระวัง หากต้องดำน้ำออกจากถ้ำเด็กอาจกลัวเรื่องสวมหน้ากากหรือติดในที่แคบ สิ่งที่จะช่วยคลายความกังวลได้คือแนวเชือกนำทางที่จะทำให้เด็กมั่นใจว่าพวกเขาจะไปถึงทางออกอย่างแน่นอน และนักดำน้ำประสบการณ์สูงที่จะช่วยให้เด็กอุ่นใจและมีความเชื่อมั่นนอกเหนือจากการซักซ้อมทำความเข้าใจเรื่องเส้นทางและวิธีการดำน้ำออกจากถ้ำ ขณะที่กำลังใจจากพ่อแม่ที่รออยู่ด้านนอกก็จะช่วยได้ทันทีที่เจ้าหน้าที่สามารถนำสายไฟเบอร์ออฟติกเข้าไปให้ได้พูดคุยกับพวกเขา.- สำนักข่าวไทย