อินเดีย-บังกลาเทศ-ฟิลิปปินส์ยังร้อนจัด

นิวเดลี 30 เม.ย.- อินเดียมีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโรคลมแดดขณะคลื่นความร้อนปกคลุมทั่วประเทศ อุณหภูมิสูงสุดเกือบ 50 องศาเซลเซียส ส่วนบังกลาเทศเผชิญคลื่นความร้อนจนต้องประกาศปิดโรงเรียนประถมของรัฐทั่วประเทศอีกครั้ง หลังกลับมาเปิดได้วันเดียว เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ต้องปิดโรงเรียน กระทบทั้งเด็กๆ และคนหาเช้ากินค่ำ


สำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียรายงานว่า เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงกว่าปกติหลายวันระหว่างเดือนเมษายนและมิถุนายนในปีนี้ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนในรัฐเกรละ ทางภาคใต้ของประเทศจากโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก ขณะที่อินเดียกำลังต่อสู้กับอุณหภูมิที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิในรัฐเกรละพุ่งถึง 41.9 องศาเซลเซียส สูงกว่าปกติเกือบ 5.5 องศาเซลเซียส ทางการท้องถิ่นต้องประกาศเตือนให้ประชาชนหาทางป้องกันตนเองจากอากาศร้อน เช่น พักอยู่ในอาคารหรือที่ร่ม

ในรัฐทมิฬนาฑูที่อยู่ใกล้กัน นักการเมืองท้องถิ่นออกแจกผลไม้สด มะพร้าวและเครื่องดื่มเย็น ๆ ในเมืองเจนไน เพื่อช่วยประชาชนดับร้อน ส่วนในรัฐโอฑิศา ทางตะวันออก อุณหภูมิพุ่งแตะ 44.9 องศาเซลเซียสในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สูงที่สุดในเดือนเมษายน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนจากโรคลมแดด


ด้านรัฐบาลบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐทั่วประเทศอีกครั้ง รวมถึงสถานศึกษาระดับชั้นอื่นๆ กว่าครึ่งประเทศ รวมทั้งในกรุงธากา เนื่องจากคลื่นอากาศร้อนรุนแรง อุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 43 องศาเซลเซียสเมื่อวานนี้ โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งปิดการเรียนการสอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากคลื่นความร้อน กลับมาเปิดอีกครั้งในวันอาทิตย์ ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงต่อเนื่องทั่วประเทศ ส่งผลให้นักเรียนมาเรียนลดลง จนต้องสั่งปิดเรียนอีกครั้ง ขณะที่ข้อมูลพบว่าในเดือนนี้ บังกลาเทศเผชิญกับคลื่นความร้อนทุกวัน ยกเว้นวันที่ 9 และ 10 เมษายน

ส่วนที่ฟิลิปปินส์ อุณหภูมิเฉลี่ยในประเทศที่สูงถึง 43 องศาเซลเซียส ทำให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งระงับการเรียนการสอนในชั้นเรียนของโรงเรียนรัฐบาลทั้งหมดกว่า 47,000 แห่งเมื่อวานนี้และวันนี้ เพราะเป็นห่วงสุขภาพของเด็กนักเรียนกว่า 3.6 ล้านคนทั่วประเทศ ส่งผลให้เจ้าของกิจการร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้โรงเรียนหลายแห่งในกรุงมะนิลาบ่นอุบ บอกว่าอากาศร้อนๆ แบบนี้ ผู้คนไม่ค่อยอยากออกมาเดินซื้อของเป็นปกติอยู่แล้ว โรงเรียนมาปิดแบบนี้ยิ่งกระทบไปกันใหญ่ เด็กๆ ที่เป็นลูกค้าในร้านหายไปหมด เช่นเดียวกับบรรดาผู้ขับขี่วินรถสองแถว บอกว่าโรงเรียนปิดก็ไม่มีนักเรียนมาขึ้นรถ รายได้ในแต่ละวันที่น้อยอยู่แล้วก็แทบไม่เหลือ

สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์ รายงานว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าดัชนีความร้อนสูงถึง 50 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ของประเทศ และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกในสัปดาห์นี้ ส่วนอากาศในกรุงมะนิลาจะพุ่งไปถึง 37 องศาเซลเซียสไปอีกอย่างน้อย 3 วัน ถือเป็นสภาวะร้อนจัดกว่าปกติในรอบหลายปี คาดว่าสภาพอากาศเช่นนี้จะยืดเยื้อไปจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤษภาคมนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก