ออสเตรเลียตกลงซื้อเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐ

แซนดีเอโก 14 มี.ค.- ออสเตรเลียประกาศแผนการซื้อเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากสหรัฐจำนวนสูงสุด 5 ลำ จากนั้นจะต่อเรือดำน้ำรุ่นใหม่ด้วยเทคโนโลยีจากสหรัฐและอังกฤษ ตามแผนการสร้างเสริมอิทธิพลของชาติตะวันตกในเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อคานอิทธิพลของจีน


นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียประกาศเรื่องนี้ในงานที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจัดต้อนรับเขาและนายกรัฐมนตรีริชี ซูนักของอังกฤษที่ฐานทัพเรือสหรัฐในเมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้นำออสเตรเลียกล่าวว่า ข้อตกลงนี้เป็นการลงทุนในศักยภาพการป้องกันประเทศครั้งเดียวและครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ เรือดำน้ำล่องหนขับเคลื่อนด้วยเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะติดขีปนาวุธร่อนที่สามารถโจมตีศัตรูได้จากระยะไกล ทำให้สามารถป้องปรามผู้ประสงค์ร้ายได้ ขณะเดียวกันจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้างเหมือนเมื่อครั้งที่ออสเตรเลียริเริ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลออสเตรเลียประเมินว่า โครงการเรือดำน้ำจะทำให้เกิดการจ้างงานประมาณ 20,000 ตำแหน่ง

อัลบาเนซี, ไบเดน, ซูนัก

นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า สหรัฐจะจำหน่ายเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้นเวอร์จิเนียที่สามารถติดอาวุธทั่วไปจำนวน 3 ลำให้แก่ออสเตรเลียในช่วงคริสต์ทศวรรษปี 2030 และอาจจำหน่ายให้สูงสุด 5 ลำหากจำเป็น หลังจากนั้นออสเตรเลียและอังกฤษจะร่วมกันต่อเรือดำน้ำรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์และสามารถติดอาวุธทั่วไป เรือรุ่นใหม่นี้มีชื่อว่า เอสเอสเอ็น-ออคัส (SSN-AUKUS) ออกแบบโดยอังกฤษ และใช้เทคโนโลยีของสหรัฐ


เดิมออสเตรเลียสั่งซื้อเรือดำน้ำพลังงานดีเซลจากฝรั่งเศสมูลค่า 66,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.27 ล้านล้านบาท) เพื่อทดแทนกองเรือดำน้ำพลังงานดีเซลที่ใช้งานมานาน แต่ออสเตรเลียได้ประกาศฉีกข้อตกลงดังกล่าวขณะเข้าร่วมกติกาสัญญาความมั่นคงไตรภาคีระหว่างออสเตรเลีย สหราชอาณาจักรและสหรัฐ หรือออคัส (AUKUS) เมื่อเดือนกันยายน 2564 ด้านจีนเตือนว่า การตั้งกลุ่มนี้เสี่ยงเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันกันสั่งสมอาวุธ และขัดขวางความพยายามห้ามแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง