มะนิลา 11 มี.ค. – ฟิลิปปินส์ขอความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นและสหรัฐในขณะที่ฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการจำกัดวงและทำความสะอาดคราบน้ำมันที่ยังคงสร้างปัญหาหลังจากเรือบรรทุกน้ำมันอับปางเมื่อ 10 วันก่อน
เรือบรรทุกน้ำมันปรินเซส เอ็มเพรส บรรทุกน้ำมัน 800,000 ลิตรก่อนที่จะอับปางลงท่ามกลางสภาพทะเลที่ปั่นป่วนนอกเกาะมินโดโร ทางใต้ของกรุงมะนิลา เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เรือจมอยู่ใต้ผิวน้ำที่ระดับความลึกประมาณ 400 เมตร แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ไม่มีความสามารถในการลงไปยังซากเรือที่อับปางและเคลื่อนย้ายน้ำมันออกมาได้ หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์กล่าววานนี้ว่า ญี่ปุ่นส่งเจ้าหน้าที่ยามฝั่งไปยังกรุงมะนิลาเพื่อสนับสนุนการสอบสวนเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลลงทะเลและแนะนำการขจัดและควบคุมคราบน้ำมัน ด้วย โฆษกหน่วยยามฝั่งฟิลปปินส์กล่าวว่า รัฐบาลมะนิลายังขอความช่วยเหลือจากสหรัฐด้วย แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ได้ความช่วยเหลือประเภทใดและทางสถานทูตสหรัฐในฟิลิปปินส์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะนี้ น้ำมันดีเซลที่เป็นเชื้อเพลิงของเรือและน้ำมันที่เรือบรรทุกมา ปนเปื้อนลงในทะเลและชายหาดในเชตเทศบาล 9 แห่งตามแนวชายฝั่งจังหวัดโอเรียนทัล มินโดโร ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องของทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีเป็นจำนวนมาก กระทรวงสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า แนวปะการัง ป่าโกงกางและสาหร่ายทะเล อาจจะได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่มากกว่า 6,200 เอเคอร์ หรือประมาณ 15,500 ไร่ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีปริมาณน้ำมันเท่าไหร่ที่รั่วไหลลงสู่ทะเล.-สำนักข่าวไทย