โตเกียว 27 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นเผยว่า จะสั่งซื้อขีปนาวุธโทมาฮอว์ก (Tomahawk) จากสหรัฐจำนวน 400 ลูก ตามนโยบายเพิ่มมาตรการปกป้องประเทศเนื่องจากมีภัยหลายประการ
นายกรัฐมนตรีคิชิดะแถลงต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณในสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ว่า รัฐบาลมีโครงการจะจัดหาขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์กจำนวน 400 ลูก แต่ไม่ได้แจกแจงในรายละเอียด โดยอ้างว่าเป็นประเด็นความอ่อนไหวทางทหาร ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงว่า ได้จัดสรรงบประมาณ 211,300 ล้านเยน (ราว 54,505 ล้านบาท) สำหรับจัดซื้อขีปนาวุธดังกล่าวในปีงบประมาณหน้า แทนการแบ่งจัดซื้อเป็นงวด ๆ เหมือนที่เคยทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โทมาฮอว์กเป็นขีปนาวุธร่อนนำวิถีพิสัยไกล ความเร็วต่ำกว่าเสียง สามารถทำการได้ในทุกสภาพอากาศ
เอเอฟพีระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการขยายศักยภาพทางทหาร เนื่องจากเผชิญภัยหลายประการ ทั้งเรื่องจีนแผ่อิทธิพลทางการทหาร เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และความวิตกเรื่องจีนอาจใช้กำลังกับไต้หวันหลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อ 1 ปีก่อน รัฐธรรมนูญหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จำกัดอำนาจของกองทัพญี่ปุ่นให้ใช้เพื่อการปกป้องตนเองเท่านั้น แต่ปี 2565 รัฐบาลได้ปรับปรุงนโยบายความมั่นคงและกลาโหมครั้งสำคัญ โดยได้พูดถึงความท้าทายที่เกิดจากจีนอย่างชัดแจ้ง และกำหนดเป้าหมายเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 2 เท่าเป็นร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ตามมาตรฐานขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต.-สำนักข่าวไทย