เปรู 11 ม.ค.- ทางการเปรูประกาศเคอร์ฟิวในเขตปูโน ทางภาคใต้ หลังเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 18 คน
นายกรัฐมนตรีอัลเบอร์โต โอตาโรลา ประกาศเคอร์ฟิวเป็นเวลา 3 คืน ตั้งแต่เวลา 20.00-04.00 น.ของเช้าวันใหม่ เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความสงบเรียบร้อย หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีเปโดร คาสตินโญ ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไป เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา และเมื่อคืนนี้ยังมีการปล้นสะดมร้านค้า รวมทั้งทุบทำลายรถของตำรวจในพื้นที่ทางภาคใต้
ผู้เสียชีวิต 18 คน จากเหตุปะทะกันเมื่อวันก่อนในจำนวนนี้ 14 คน เป็นผู้ประท้วงที่พยายามจะบุกเข้าไปในสนามบินเมืองจูเลียกา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ และมีหลายคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ประท้วงอีก 3 คน เสียชีวิตระหว่างก่อเหตุปล้นสะดมห้างสรรพสินค้า ใจกลางเมืองจูเลียกา และอีกคนหนึ่งเป็นตำรวจที่เสียชีวิต จากการถูกผู้ประท้วงจุดไฟเผารถยนต์ นับตั้งแต่การประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนที่แล้ว จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 40 คน ขณะที่รัฐบาลเปรูกล่าวปกป้องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในเมืองจูเลียกา ว่าเป็นการป้องกันและดูแลความปลอดภัยของสนามบิน ที่กำลังเผชิญกับความพยายามก่อรัฐประหารของผู้ประท้วงหลายพันคน แต่สหประชาชาติก็เรียกร้องให้ทางการเปรูเร่งสอบสวนเรื่องผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ พร้อมทั้งหาตัวผู้ที่จะต้องรับผิดชอบ เพื่อคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิต
อีกด้านหนึ่งสำนักงานอัยการแห่งชาติของเปรูแถลงว่า จะสอบสวนรัฐบาลของประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ว่ากระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่ โดยจะมุ่งเป้าไปที่การสอบนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีมหาดไทย และรัฐมนตรีกลาโหม.-สำนักข่าวไทย