กรุงเทพฯ 15 มิ.ย. – กบง.เคาะขึ้นราคาก๊าซ LPG 1 บาท/กก. เป็นเวลา 3 เดือน พร้อมคลอดมาตรการสู้วิกฤติราคาพลังงาน
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบมาตรการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทยอยปรับขึ้นราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาท/กิโลกรัม โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาท ต่อถัง 15 กก. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.65 ส่งผลให้ราคา LPG เดือน ก.ค. อยู่ที่ 378 บาท/ถัง เดือน ส.ค. 398 บาท/ถัง และเดือน ก.ย. 408 บาท/ถัง จากเดิมปรับขึ้นกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.65) จนราคาปัจจุบันอยู่ที่ 363 บาท ต่อถัง 15 กก. ขณะที่ราคาต้นทุนที่แท้จริงอยู่ที่ประมาณ 460 บาท/ถัง (กองทุนอุดหนุนถังละ 100 บาท) หลังครบกำหนด 3 เดือน ก็จะต้องมาทบทวนอีกครั้ง หากราคา LPG โลกลดลง ราคาในบ้านเราก็ต้องลดลงตามไปด้วย แต่หากราคา LPG โลกขยับขึ้นอีก เราก็อาจจะต้องปรับขึ้นตามไปด้วย ซึ่งต้องดูตามสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบ 91,089 ล้านบาท โดยเป็นบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 36,515 ล้านบาท บัญชีน้ำมัน ติดลบ 54,574 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 3 เดือน ในช่วง ก.ค.-ก.ย.65 โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน จัดทำคำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.65 สำหรับผู้ใช้สิทธิ 4 ล้านราย รวมเป็นเงินงบประมาณ 220,000,000 บาท
นายกุลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาก๊าช NGV ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยให้กระทรวงพลังงานขอความอนุเคราะห์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.-15 ก.ย.65 และยังเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น ตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.65 โดยกำหนดสัดส่วนการผสมไอโอดีเซล โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 10 และ B20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 อีกทั้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร
ส่วนค่าการกลั่น ทางกระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ในปี 2565 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. ค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 3.27 บาท/ลิตร แต่ด้วยราคาน้ำมันสูงแบบนี้ ก็ทำให้ค่าการกลั่นสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้น กระทรวงพลังงานจึงต้องมีมาตรการต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยจะมีการแถลงรายละเอียดอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย