กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – ให้ออกจากงานแล้ว “นักข่าวสาว” หลัง “หมอปลา” ยอมรับส่งทนายและนักข่าวล่อซื้อ-แอบถ่ายคลิปหลวงปู่แสง
เวิร์คพอยท์ ออกมาตรการลงโทษนักข่าวสาวให้พ้นสภาพการเป็นผู้สื่อข่าว ระบุมีกิริยาไม่เหมาะสม ไม่เคารพแหล่งข่าว-ไม่เป็นกลาง-ตัดสินใจร่วมกับสื่อสำนักอื่นและแหล่งข่าวสร้างหลักฐานไม่ขออนุญาตต้นสังกัด ส่วนช่อง 8 พักงานนักข่าว 7 วัน ล่าสุดช่อง 3 แจ้งพักงานนักข่าวภาคสนาม 15 วัน หลัง “หมอปลา” ยอมรับส่งทนาย-นักข่าวล่อซื้อ แอบถ่ายคลิป
“หมอปลา” ยอมรับส่งทนาย-นักข่าวไปล่อซื้อ แอบถ่ายคลิป
• กรณีหมอปลายอมรับแล้ว กรณีบุกไปวัดป่าดงสว่างธรรมได้มีการส่งทนายสาว 2 คน และนักข่าวสาวเข้ากุฏิหลวงปู่ ยังยืนยันเคสนี้มีผู้เสียหายจริง แต่ผู้เสียหายไม่มีคลิป ทำให้ต้องส่งคนเข้าไป ย้ำว่าไม่ได้จัดฉาก แค่ต้องการหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามที่มีคนร้องมา หลังเป็นต้นเรื่องเปิดคลิปกล่าวอ้างข่าวฉาววงการสงฆ์ กล่าวหาพระเกจิดังในจังหวัดยโสธร ลวนลามสีกาที่มากราบสักการะ แต่ถูกกระแสตีกลับเพราะทั้งลูกศิษย์ ญาติ และหลายฝ่ายพูดตรงกันว่า ท่านเป็นพระนักปฏิบัติและอาพาธอัลไซเมอร์ แถมอายุก็เกือบ 100 ปี ซึ่งหมอปลายัน ไม่ได้ตั้งใจก้าวล่วง แค่ถามจี้พระลูกวัด
ขณะที่นักข่าวในเหตุการณ์ ทางเวิร์คพอยท์ออกมาตรการลงโทษนักข่าวสาว “ประกาศความผิดพนักงาน” ระบุว่า ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ ทำผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพสื่อมวลชน ในการทำข่าวของหลวงปู่แสง โดยมีความผิดดังนี้ 1.มีกิริยาไม่เหมาะสมไม่เคารพต่อแหล่งข่าว 2.แสดงความไม่เป็นกลางในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน 3.ตัดสินใจร่วมกับสื่อสำนักอื่นและแหล่งข่าวในการสร้างหลักฐาน โดยไม่ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาหรือรายงานต้นสังกัด กองบรรณาธิการข่าวเวิร์คพอยท์ จึงมีมติให้นางสาววาสนา ศรีผ่อง พ้นสภาพการเป็นผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์
ขณะที่ช่อง 8 สั่งพักงานนักข่าวเป็นเวลา 7 วัน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนตรวจสอบจริยธรรมในวิชาชีพสื่อก่อนกำหนดบทลงโทษ ด้านช่อง 3 มีการพักงานนักข่าวภาคสนาม 15 วัน
โดยวานนี้ 13 พ.ค. ผู้สื่อข่าวที่ถูกลงโทษเดินทางมาพร้อมทีมงาน กราบขอขมารูปหลวงปู่แสง หน้าวัดป่าอรัญญาวิเวก จังหวัดอำนาจเจริญ สถานที่ที่ศิษย์พาหลวงปู่ย้ายมาพำนักแล้ว โดยมีลูกศิษย์หลวงปู่แสงและพระลูกวัดมาเป็นสักขีพยานกันจำนวนมาก ภายหลังลูกศิษย์บอกตรงกันพร้อมให้อภัยกับสิ่งที่ผู้สื่อข่าวได้ทำลงไป นอกจากยึดหลักเดียวกับหลวงปู่ ในการให้อภัย เชื่อว่าหลวงปู่เอง หากผู้สื่อข่าวมาขอขมาด้วยความจริงใจและสำนักผิด หลวงปู่แสงก็จะให้อภัยเช่นกัน
ด้าน อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ โพสต์คลิปเตือนหมอปลาระวังความห้าวเหลือเกิน คิดหน่อย ใช้สติหน่อย ไม่ใช่ใครส่งคลิปมาก็ห้าวไป ลุยเลยบุกเลย พี่เป็นห่วง ที่ผ่านมาทำมาดีแล้ว ช่วยปกป้องพระศาสนา ทำมาดีแล้ว แต่ว่าการลุยแบบขาดสติ ดังได้ ก็ดับได้
ส่วนทิดไพรวัลย์ โพสต์เฟซบุ๊กพูดถึงพี่หมอปลาในฐานะกัลยาณมิตร และน้องชายที่นับถือกัน ในเคสของหลวงปู่แสงที่เกิดขึ้น มองว่าไม่ได้ทำอะไรซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดบาปทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ถูกต้องทั้งหมด พูดถึงส่วนที่ถูก ทำให้สังคมได้เห็นว่า มีเรื่องไม่ปกติหรือไม่ชอบมาพากลที่เกิดกับหลวงปู่แสง ทำให้สังคมโดยเฉพาะคนที่นับถือ ได้รู้อย่างแน่ชัดว่าตอนนี้มีอาการอาพาธ และควรจะได้รับการอุปฐากดูแลแบบไหน ไม่รวมถึงความใช้ไม่ได้ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่อีก หากเรื่องนี้ไม่เป็นที่วิจารณ์ในวงกว้าง หลวงปู่จะต้องตกเป็นเครื่องมือ หรือที่ครหาปรามาสของผู้แสวงหาประโยชน์
ในส่วนที่ผิดที่เลี่ยงจะไม่พูดถึงไม่ได้ คือความมุทะลุดุดัน การทำอะไรโดยปราศจากการยับยั้งหรือสงวนท่าที บางครั้งแทนที่จะให้ผลดีกลับให้ผลเสีย คนรอบข้างมีเยอะ หลายคนต้องการแค่คอนเทนต์ ชอบสนับสนุนให้ทำอะไรโดยขาดความไตร่ตรอง อยากเตือนด้วยความรัก พึงระวังกลุ่มคนเหล่านี้ให้ดี
ย้อนมาประเด็นอาการอาพาธของหลวงปู่ หลานสายตรงของหลวงปู่ นางทักษิณา ดีหอม นำเอกสารการเข้ารับการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อปี 62 เพื่อยืนยันว่าหลวงปู่เป็นอัลไซเมอร์ ย้ำช่วงสุดท้ายของหลวงปู่ ลูกหลานทุกคนไม่สบายใจ หมอปลาและนักข่าวที่ไปศึกษาข้อมูลน้อยไปหรือไม่ เหมือนจาบจ้วงพระผู้ทรงศีลเพราะหลวงปู่บวชมากว่า 80 พรรษาแล้ว
อาการป่วยอัลไซเมอร์ของหลวงปู่ ทราบว่าเป็นมานานแล้ว ตอนที่หมอปลาพานักข่าวเข้าไป ยังหลง ๆ ลืม ๆ ถามว่าพากันมาทำอะไร และนั่งนิ่งไม่ทำอะไร ส่วนตัวไม่ได้ไปบ่อย นานๆ จะไปกราบหลวงปู่ แต่เมื่อวานลูกหลานไปอยู่หลายคน ตอนนี้มองว่าการจัดการระบบภายในวัดไม่ได้เรื่อง ควรมีระบบการดูแลพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ การทำงานของหมอปลาแย่กว่าที่ผ่านมา อยากถามว่าเคยศึกษาข้อมูลประวัติหรือยัง ว่าที่ผ่านมาหลวงปู่สร้างอะไรเอาไว้บ้าง
ส่วนการติดเชื้อซิฟิลิส อาจติดได้หลายช่องทาง แต่ไม่ติดต่อผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน ใช้ห้องน้ำร่วมกัน กินข้าวร่วมกัน และการตรวจพบ TPHA จึงไม่ได้บอกว่าคนไข้เคยติดเชื้อเมื่อไร บางครั้งอาจติดจนรักษาหายแล้ว หรือติดแต่ไม่มีอาการนานนับสิบปีก็ได้ และไม่ได้เป็นตัวบอกว่าอาการขณะนี้เกิดจากตัวโรค กรณีสงสัยจำเป็นต้องตรวจเพื่อวินิจฉัย เช่น การเจาะน้ำไขสันหลังเพิ่มเติม ดังนั้นตอนนี้หลวงปู่แสง ควรเข้ารับการรักษาเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม เพราะถ้าเป็น neurosyphillis ก็รักษาได้ และป้องกันอาการแย่ลงได้ .-สำนักข่าวไทย