ทำเนียบ 8 เม.ย- ศบค.คงระดับพื้นที่สีคุมเข้มโควิด-19 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 65 ขณะที่จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว-เฝ้าระวังสูง ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านไม่เกิน 5 ทุ่ม ด้าน สปสช.รายงานเตรียมชุดตรวจ ATK กระจายให้ประชาชน 22.8 ล้านชิ้น มี.ค.-ก.ย.65 ใช้ไปแล้ว 1 ล้านชิ้น
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ศบค.เห็นชอบคงระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ โดยยังคงระดับพื้นที่สี และให้คงมาตรการป้องกันการควบคุมโรค โดยคงมาตรการจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารสำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. รวมถึงคงมาตรการจำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ต้องเป็นร้านที่ผ่านมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับมาตรการสถานบริการและสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ ให้ผู้ประกอบการเปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ ตามมาตรการที่กำหนด โดยจะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ เมื่อมีความพร้อมโดยไม่กำหนดระยะเวลา
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวว่าที่ประชุม ศบค. ได้รับทราบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานว่าให้มีการตรวจ ATK ในลักษณะการตรวจด้วยตัวเองในกลุ่มเสี่ยง โดยได้มีการกระจายชุดตรวจATK ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ก.ย.2565 เตรียมไว้ทั้งหมดประมาณ 22.8 ล้านชิ้น และช่วงที่ผ่านมาได้ใช้ไปแล้วประมาณ 1 ล้านชิ้น 1.2 ล้านคนพบว่ามีผลบวกประมาณ 2.3% ซึ่งใช้ต้นทุนต่อชุดประมาณ 55 บาท งบประมาณที่ได้ขออนุมัติไปแล้ว 170 ล้านบาท โดยที่ประชุมขอให้ช่วยกัน ซึ่งถือเป็นกลไกส่วนหนึ่งที่จะทำให้ราคาของชุดตรวจ ATK ในประเทศไทยไม่สูงจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ศิริราชพยาบาล ร่วมกับภาคเอกชนได้มีการผลิตชุดตรวจ ATK ในประเทศไทย โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 45 บาทต่อชิ้น ซึ่งผลิตได้ประมาณ 2 แสนชิ้นต่อเดือน ซึ่งนายกฯ ชื่นชมและระบุว่า ถ้าเป้าหมายใช้ชุดตรวจ ATK เป็นล้านชิ้นเป็นไปได้หรือไม่ ว่าจะเพิ่มชุดตรวจ ATK ดังกล่าวให้ไปถึง 1 ล้านชิ้น โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันว่ามีความเป็นไปได้ และขอให้เพิ่มช่องทางในการดำเนินการร่วมกับภาครัฐร่วมกับองค์การเภสัชกรรมเพื่อให้ราคาถูกลง .- สำนักข่าวไทย