กทม. 4 เม.ย.- ตำรวจเร่งขยายผล คดีลูกศิษย์คนสนิท “สมเด็จพระวันรัต” ยักยอกเงินวัด เกือบ 200 ล้านบาท เบื้องต้นพบเพิ่มอีกที่วัดสาขาใน จ.ตราด
หลังเมื่อวันที่ 23-25 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบจับกุมคนสนิทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวิหาร ที่มรณภาพ มีการยักยอกเงินในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศฯ และวัดสาขา ตามที่คณะกรรมการวัดได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับ พบเงินหายออกจากบัญชีวัดบวรนิเวศฯ 110 ล้านบาท และวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยาอีก 80 ล้านบาท รวม 190 ล้านบาท เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา รวม 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกง ลักทรัพย์ และใช้เอกสารสิทธิปลอม ซึ่งตำรวจคัดค้านการประกันตัวแล้ว ขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ
พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองปราบปราม ได้เร่งขยายผลตรวจสอบบัญชี ที่เกี่ยวข้องของวัดบวรนิเวศ บัญชีของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีของวัดสาขา ที่มีชื่อสมเด็จพระวันรัต เป็นเจ้าของบัญชี พบว่านอกจากพบเงินหายออกจากบัญชีวัดบวรนิเวศฯ 110 ล้านบาท และวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา อีก 80 ล้านบาท รวม 190 ล้านบาท แล้ว ยังพบการกระทำในลักษณะเดียวกัน คือ มีการโอนเงิน จากบัญชีของวัดสาขา คือ วัดรัตนวราราม จ.ตราด 80 ล้านบาท และวัดคีรีวิหาร จ. ตราด อีก 10 ล้านบาท โดยพบว่าทั้ง 2 บัญชีเป็นเงิน งบฯ สร้างและบูรณะวัด ทั้งนี้คาดว่ายอดเงินที่ผู้ต้องหายักยอกออกไปน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 190 ล้านบาท และจากข้อมูลการสืบสวนขณะนี้พบว่ายังมีผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว
ภายหลังจับกุมและตรวจค้นที่พักผู้ต้องหา ตำรวจได้ตามยึดทรัพย์คืนได้ประมาณกว่า 100 ล้านบาท ทั้งรถยนต์หรู หลายคัน คอนโดมิเนียม เงินสดในบัญชี และมีญาติของผู้ต้องหานำทรัพย์สินที่รับโอนไปมาคืน พร้อมประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มบุคคลใกล้ชิด ญาติสนิทผู้ต้องหา หากผู้ต้องหานำทรัพย์สินไปฝากไว้ หรือโอนให้ ขอให้รีบนำกลับมาคืนเจ้าหน้าที่โดยเร็ว
ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากเส้นทางการเงินต่างๆ รวมถึงการสอบพยานบุคคลจำนวนมาก เพื่อเตรียมแจ้งข้อหา ตามความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงินเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาด้วย คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้นอ้างว่า เป็นเงินที่ได้มาจากความสนิทสนมส่วนตัว และอดีตสมเด็จพระวันรัตเป็นผู้มอบให้ แต่จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจกองบังคับการปราบปรามพบว่า ผู้ต้องหาอาศัยความใกล้ชิดเข้าไปบริหารจัดการทรัพย์สินต่างๆ ของสมเด็จพระวันรัต และกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปเพื่อให้สะดวกต่อการก่อเหตุ และมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกจากบัญชีของสมเด็จพระวันรัต เกือบทุกบัญชีที่มีอยู่ รวมถึงบัญชีวัดสาขา ในต่างจังหวัดที่อยุธยาและตราด ด้วย .-สำนักข่าวไทย