โควิดในไทย เป็นโอไมครอน 99.9%

สธ. 23 มี.ค.- กรมวิทย์ฯ แจงไทยพบโอไมครอน 99.9% เดลตาแค่ 1 ตัวอย่าง ลดโอกาสเจอ ‘เดลตาครอน’ ในไทย สัดส่วนสายพันธุ์ย่อยโอไมครอน BA.2 เพิ่มขึ้น 78.5% เนื่องจากมีความสามารถแพร่เร็ว 1.4 เท่า ขณะที่ส่งข้อมูลเข้าข่ายเดลตาครอน 73 ตัวอย่าง ให้ GISAID พบตั้งแต่ ธ.ค.


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่าผลการตรวจหาสายพันธุ์โควิด-19 ในไทย พบว่าจากการเก็บตัวอย่างจำนวน 1,981 ตัวอย่าง ขณะนี้พบเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนถึง 99.9% เดลตาแค่ 1 ตัวอย่างเท่านั้น เท่ากับว่าโอกาสที่จะพบการกลายพันธุ์ หรือ ไวรัสพัฒนาเป็นเดลตาครอนแทบไม่มีแล้ว เนื่องจากไม่มีเชื้อเดลตาหลงเหลืออยู่ ขณะเดียวกันพบว่าสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอนที่พบในไทย สัดส่วนของ BA.2 เพิ่มมากขึ้น จากสัปดาห์ก่อน 18% เป็น 78.5% เรียกว่าเบียดสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ โดย BA.2 มีความสามารถในการแพร่โรคเร็วกว่า BA.1 ถึง 1.4 เท่า

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า หากมองในรายละเอียดของผู้เสียชีวิตจะพบว่า เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2 ถึง 60.64% แต่ไม่ได้หมายความว่าเชื้อ BA.2 มีความรุนแรง หรือเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต เนื่องจากการป่วยและติดเชื้อต้องใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ถึงจะมีอาการรุนแรง ส่วนสายพันธุ์ย่อยลงไปของ BA.2 ที่พบในต่างประเทศ ฮ่องกง BA.22 หรือ BA.23 ยังไม่มีรายงานเพิ่ม ส่วนกรณีของเดลตาครอน ที่มีการติดตามของ GISAID นั้น พบว่าในการรายงานผลที่ทั่วโลกมีการส่งข้อมูลไปให้ยืนยันกว่า 4,000-5,000 ตัวอย่างในจำนวนนี้ก็มีตัวอย่างของไทยที่ส่งไปด้วยเช่นกัน 73 ตัวอย่าง ทาง GISAID ยืนยันให้เป็นเดลตาครอนจริงแค่ 64 ตัวอย่าง พบในฝรั่งเศส 50 ตัวอย่าง ส่วนที่เหลือกระจายในประเทศอื่นๆ โดยนิยามว่าเป็น เดลตาครอน คือ การผสมรวมกันออกลูกหลานกลายเป็นไฮบริด หรือเกิดเป็นตัวใหม่ ทั้งนี้ในส่วนของเดลตาครอนที่พบในไทยเป็นการพบเมื่อราวเดือนธันวาคม ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะขณะนี้ไม่หลงเหลือในไทยมากแล้ว และผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีอาการรุนแรง


นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า คุณสมบัติของโอไมครอนอย่างหนึ่ง คือ หลบภูมิคุ้มกันได้ค่อนข้างดี จะเห็นคนติดเดลตามาแล้ว ไม่ได้การันตีว่าจะไม่ติดโอไมครอนซ้ำ มีโอกาสเป็นอีกได้ เพราะฉะนั้นวัคซีนไม่ว่าอะไรฉีด 2 เข็มนานพอควร ภูมคุ้มกันอาจตก ป้องกันติดเชื้อไม่ได้ จะต้องมากระตุ้นซ้ำ เพราะช่วยป้องกันป่วยตายได้พอสมควร โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 ซึ่งอัตราการติดเชื้อเสียชีวิตยังสูง ควรรีบมารับวัคซีน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”