ทำเนียบ 24 ก.พ.-เลขาฯ สมช. ยันไม่ล็อกดาวน์ ยกเว้นจำเป็นอย่างที่สุด คาด มี.ค.ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง เตรียมแผนรับหากตัวเลขพุ่งถึงวันละแสนคน เผยสงกรานต์ไม่ห้ามเดินทาง แต่งดสังสรรค์-กิจกรรมเสี่ยง
พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กล่าวถึงการชี้แจงต่อประชาชนถึงการปรับมาตรการผู้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน (UCEP) ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ไปดูในรายละเอียด UCEP Plus โดยต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบในรายละเอียดและขั้นตอนให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย ยืนยันว่าประชาชนไม่ได้เสียสิทธิ์ แต่เป็นการบูรณาการการทำงานเพื่ออนาคต ขอให้รอฟังกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงในรายละเอียด
ส่วนสาเหตุมาจากการใช้งบประมาณที่มากเกินไปหรือไม่นั้น เลขา สมช.กล่าวว่า เรื่องงบประมาณจะพิจารณาในภาพรวม แต่ถ้าหากมีความจำเป็นก็ต้องดำเนินการ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้เกิดความเรียบร้อย โดยนายกรัฐมนตรีสั่งให้ทบทวนขั้นตอนให้รอบคอบและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจ
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ (24 ก.พ.) ที่รวมกับผลตรวจ ATK ประมาณ 500,00 รายนั้น จะมีการรองรับอย่างไร เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ศบค.มีมาตรการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและแนวทางการแก้ปัญหา “จะกลับไปล็อกดาวน์เหมือนในสมัยที่ระบาดแรกๆ คงทำได้ยาก ยกเว้นจำเป็นอย่างที่สุด และคาดว่าจะไม่เกิดขึ้น จึงต้องขอให้ประชาชนปรับตัวในการดำเนินชีวิตและเข้มมาตรการสาธารณสุข”
พล.อ.สุพจน์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เตรียมแผนรองรับทั้งระบบ ยกระดับการกักตัวที่บ้าน การกักตัวในชุมชนและเตรียมโรงพยาบาลสนาม ส่วนโรงพยาบาลหลักจะรับผู้ป่วยหนัก (สีแดง) เท่านั้น โดยไม่กระทบกับผู้ป่วยโรคอื่น และป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงทุกจังหวัดก็จะมีสายด่วนเสริมด้วย นอกจากสายด่วนใน กทม.
ส่วนสาธารณสุขมีการประเมินหรือไม่ ว่าตัวเลขจะพุ่งสูงไปมากกว่านี้ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากที่ประเมินจะมีปัจจัยในเรื่องของการผ่อนคลายมาตรการมาก่อนหน้านี้ และสายพันธุ์โอไมครอนที่เข้ามาแล้วแพร่เชื้อได้ง่าย และสังเกตเห็นว่า ประชาชนจะมีการตรวจ ATK มากขึ้น ทำให้ตัวเลขขยับเพิ่มสูงขึ้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งใช้กลไกทางปกครองเข้าไปช่วยการดำเนินการ และการแก้ปัญหาคลัสเตอร์ในแต่ละจุด ซึ่งคิดว่าการทำคู่ขนานลักษณะนี้น่าจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อค่อยๆ ลดลง และเชื่อว่าประชาชนจะตระหนักและให้ความร่วมมือ
พล.อ.สุพจน์ คาดหวังว่าในเดือนมี.ค.ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง และช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในเดือนเมษายน คาดว่าประชาชนจะได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงสงกรานต์ปกติมากที่สุด แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตปกติเหมือนช่วงก่อนมีโควิด ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเพื่อหารือเตรียมมาตรการในช่วงสงกรานต์ แต่จะไม่มีการห้ามการเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อกลับภูมิลำเนา แต่ขอให้งดเรื่องการสังสรรค์ และการเลี้ยงฉลอง รวมถึงกิจกรรมเสี่ยง
เลขาฯ สมช. ยังกล่าวถึง การเตรียมแผนรองรับ หากมีผู้ติดเชื้อรายวันถึงระดับแสนคน และได้มีการประเมินเป็นรายวันอยู่แล้ว รวมถึงเพิ่มมาตรการรองรับไม่ใช่เฉพาะการสร้างโรงพยาบาลสนามรองรับคนติดเชื้อจำนวนมาก แต่จะต้องมีมาตรการมากกว่านี้
ส่วนกรณีที่เด็กนักเรียนที่เป็นผู้เสี่ยงสูง และผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถเข้าสอบและนั่งสอบร่วมกับคนอื่น และผู้คุมสอบจะต้องใส่ชุด PPE หรือไม่นั้น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ต้องจัดพื้นที่โซนนิ่ง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงเรียนและสถานศึกษาด้วย ว่า สามารถจัดพื้นที่โซนนิ่งให้กับกลุ่มดังกล่าวได้ รวมถึงต้องมีมาตรการตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำ เช่น ต้องควบคุมตั้งแต่การเดินทาง การเข้าไปอยู่ในห้องสอบที่ต้องมีการป้องกันเป็นอย่างดี มีอากาศถ่ายเท
ส่วนจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) เช่น จังหวัดชลบุรี ยังมีการลักลอบเปิดสถานบันเทิงจะต้องมีการเพิ่มมาตรการหรือไม่นั้น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้มีการรับฟังข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียน หากพบก็ให้ดำเนินการแก้ไข รวมถึงหากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไปนั่งรอเข้ารับการรักษาอยู่ข้างถนน ให้รีบรับเรื่องและไปดำเนินการช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย