fbpx

“วัฒนา”มาศาล ยันไม่หนีคดีบ้านเอื้ออาทร

ศาลฎีกา 4 ก.พ.-“วัฒนา” มาศาลแถลงอุทธรณ์ตามนัด ยันไม่หนีคดีบ้านเอื้ออาทร เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ ชี้ การตัดสินต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน ไม่ใช่การคาดเดา


นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมาที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อแถลงปิดคดีชั้นอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อม.อธ.1/2564 ระหว่างอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้องนายวัฒนา กับพวกรวม 14 คน เป็นจำเลย ถูกกล่าวหาทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เป็นการแถลงเปิดด้วยวาจาต่อองค์คณะ และจะมาบอกศาลว่าการที่จะลงโทษใครจะต้องมีหลักฐานชัดเจน อย่าคาดเดา ซึ่งคดีนี้มีความสลับซับซ้อน จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปฟังการพิจารณาแล้วจะรู้ว่าเพราะเหตุใดทำไมตนจึงยังยืนหยัดอยู่ตรงนี้ ทั้งๆ ที่มีแต่คนบอกให้หนี เพราะว่ามีธง แต่ถ้าฟังข้อเท็จจริงก็จะทราบเหตุผลทั้งหมด ยืนยันสำหรับคดีนี้ไม่มีความถูกต้องตั้งแต่ต้น เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองล้วนๆ ดังนั้นจึงมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และในวันที่ 4 มี.ค.นี้ จะมาถึงศาลเพื่อฟังคำตัดสินเป็นคนแรกอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ว่าโทษชั้นต้นจะหนัก นายวัฒนา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่หนักใจ แต่ขอโอกาสให้ตนได้สู้คดีอย่างเต็มที่ ก่อนหน้านี้ในศาลชั้นต้นก็ไม่ให้โอกาสตน เมื่อขอแถลงการณ์ก็ให้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง และขณะแถลง ซึ่งยังแถลงไม่จบก็บอกให้พอแล้ว เสมือนกับไม่อยากฟังตนเลย ซึ่งวันนี้ตนเชื่อว่าองค์คณะจะให้เวลา จนครบถ้วน แล้วถ้าฟังความทั้งหมดก็จะรู้ว่าไม่เคยมีกระบวนการยุติธรรมที่ไหนที่ “สกปรก” เช่นนี้


นายวัฒนา กล่าวว่า จนถึงวันนี้ตนก็ยังแสวงหาความยุติธรรม เพราะคดีนี้ไม่มีความถูกต้องอะไรเลย แม้กระทั่งกระบวนการสอบสวนพยานก็ยังมีการจูงใจ และข่มขู่ ซึ่งผิดกฎหมายทั้งหมด ตนมีหลักฐานชัดเจนไม่ได้เป็นการพูดปากเปล่าอย่างแน่นอน แต่ที่แปลกใจคือกระบวนการยุติธรรมเพิกเฉยกับสิ่งเหล่านี้ และวันนี้ศาลก็ต้องวินิจฉัยว่าสิ่งที่กระทำมาทั้งหมดถูกหรือไม่ถูก ไม่ใช่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วมาพิพากษาลงโทษตน ซึ่งมันไม่ถูกต้อง

“ความจริงก็คือความจริง และที่กล่าวหาไม่มีความจริงสักเรื่องเดียว ซึ่งผมสามารถพิสูจน์ได้ทั้งหมด เมื่อข้อกล่าวหาเป็นเท็จพยานที่นำมาพิสูจน์ทราบก็จะต้องเป็นเท็จทั้งหมด เพราะการปั้นพยานมาก็จะพูดไปคนละทิศคนละทางคนละเรื่องคนละราว แต่ถ้าข้อกล่าวหาเป็นจริงและพยานพูดความจริง ก็จะเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งเป็นโชคไม่ดีของผม ที่ศาลชั้นแรกเลือกที่จะเชื่อโจทก์ไม่ได้ดูพยานจำเลยจำนวนมาก แต่วันนี้ผมจะชี้ให้องค์คณะเห็นพยานแล้ววินิจฉัย ขอให้รู้ว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด และยังยืนหยัดต่อสู้ตามครรลอง ซึ่งผมอาจจะเป็นจำเลยในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาที่สู้จนวินาทีสุดท้ายแน่นอน ดังคำที่ว่าภาษากายก็จะรู้ว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด และจะเดินหน้าชนแบบนี้ต่อไป ” นายวัฒนากล่าว

นายวัฒนากล่าวว่า สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่ 12 แล้ว ซึ่งตนโดนคดีทุจริตในชั้นคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มา 4 คดี ประกอบด้วย คดีหวย คดีรถดับเพลิง คดีกล้ายาง และคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งยกฟ้องไปทั้งหมดแล้ว และในชั้นคณะรักษาความสงบ (คสช.) ก็นำคดีมาใส่ตน ซึ่งตนโดนทั้งหมด 12 คดี ซึ่งทั้ง 11 คดีถูกยกฟ้องไปทั้งหมด ชัดเจนว่าเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ จึงไม่อยากให้การเมืองหรือความรู้สึกเข้าไปในศาล อยากให้วินิจฉัยตามข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องคำนึงว่าตนเป็นใคร เพียงแค่ตัดสินให้ความผิดตามพยานหลักฐาน


  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเดินทางมาให้กำลังใจนายวัฒนาด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง