กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – อธิบดีกรมชลประทานสั่งเตรียมพร้อมรับภาวะน้ำหลาก-น้ำท่วมที่อาจเกิดจากฝนตกหนักภาคใต้ ระดมเครื่องจักร-เครื่องมือไปติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงแล้ว
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สั่งให้โครงการชลประทานทุกแห่งภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาอาจเกิดน้ำไหลหลากได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งเฝ้าระวังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้น เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายอ่างเก็บน้ำที่อาจเกิดน้ำท่วม ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง และภูเก็ต
สำหรับพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เสียง เกิดเหตุน้ำท่วมเป็นประจำที่ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ ประกอบด้วย
- บริเวณแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ อำเภอพระแสง พุนพิน และเมืองสุราษฎร์ธานี
- บริเวณคลองท่าดี จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ อำเภอลานสกา พระพรหม และเมืองนครศรีธรรมราช
- บริเวณคลองชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่
- ทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอสิงหนคร
- แม่น้ำปัตตานี จังหวัดปัตตานี ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา และอำเภอเมืองปัตตานี
- แม่น้ำโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ อำเภอสุไหงโก-ลก
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฝนจะตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงย้ำให้เฝ้าระวังเป็นพิเศาในพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมสูงสุด (Upper Rule Curve) เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และให้พิจารณาบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ ให้สอดคล้องกับการขึ้น – ลงของระดับน้ำทะเล รวมทั้งใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลาก และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงอาคารบังคับน้ำ อ่างเก็บน้ำ และแนวคันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ.- สำนักข่าวไทย