อ่างทอง 22 ต.ค. – ถึงกับกระโดดขวางรถบรรทุก ชาวบ้าน อ.ไชโย สองฝั่งน้ำท่วม ยกพวกซัดกันนัว หลังขัดแย้งเปิดทางน้ำ ขณะที่นายอำเภอรุดเจรจาขอความร่วมมือ หลังความขัดแย้งเริ่มขยายวงกว้าง สุดท้ายพบกันครึ่งทาง
ภาพที่เห็นเป็นเหตุการณ์ชาวบ้าน 2 กลุ่มยกพวกตีกัน หลังขัดแย้งเรื่องปิดทางน้ำ โดยหญิงสูงอายุ ในพื้นที่หมู่ 5 ต.จรเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง ยืนขวางรถบรรทุกแท่งแบริเออร์ที่เจ้าหน้าที่เตรียมขนไปปิดคันกั้นน้ำ บริเวณซอยเทศบาล 6 ริมถนนสายบ้านรี-มหานาม ต.จรเข้ร้อง เพราะไม่ต้องการให้ปิด ทำให้กลุ่มชาวบ้านหมู่ 7 ต.จรเข้ร้อง และ ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย ซึ่งอยู่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ใกล้ถนนสายเอเชีย และถูกน้ำไหลบ่าข้ามคลองชลประทานท่วมทุ่งนาและบ้านเรือน ชาวบ้าน ไม่พอใจ เข้าไปผลักหญิงคนดังกล่าวจนเกิดชุลมุนขึ้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมามักเกิดเหตุปะทะคารมกันมาตลอด ตั้งแต่คันกั้นน้ำริมถนนสายบ้านรี-มหานาม พัง และน้ำไหลบ่าลงคลองชัยนาท-อยุธยา และไหลเข้าคลองระบายบางศาลา ทำให้น้ำท่วมปลายน้ำ ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่เตรียมนำแท่งแบริเออร์เข้ามาชะลอน้ำ แต่ชาวบ้านเข้าใจว่าจะมีการปิดไม่ให้มีการระบายน้ำ
นางสมคิด อายุ 62 ปี ซึ่งกระโดดขวางรถบรรทุกแบริเออร์ บอกว่า ตนไม่ยอมให้มีการปิด เพราะนายอำเภอบอกไว้ว่าจะไม่มีการปิดให้น้ำขังในพื้นที่ ซึ่งตนเองก็ถูกทำร้ายจากอีกฝั่งหนึ่ง ทุกวันนี้ก็แทบจะนอนไม่ได้อยู่แล้ว
หลังเหตุการณ์ปะทะกัน นายสุรพร หมายเจริญ นายอำเภอแสวงหา ได้เดินทางมาเจรจากับชาวบ้านทั้งสองฝั่ง โดยขอความร่วมมือในการตั้งแท่งแบริเออร์เพื่อชะลอน้ำ และนำเครื่องสูบน้ำตั้งที่ท้ายคลอง เพื่อสูบน้ำลงคลองบางแก้ว โดยรับปากกับชาวบ้านว่าจะไม่มีการปิดช่องทางน้ำ แต่จะตั้งแบริเออร์เพื่อชะลอน้ำเท่านั้น ทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจและรอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่
ส่วนชาวบ้านหมู่ 2 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ต้องใช้แกลลอนพลาสติกขนาด 200 ลิตร 3 ใบ และใช้แกลลอนขนาดเล็กอีก 2 ใบ ผูกติดกับรถจักรยานยนต์ น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม เพื่อให้ลอยน้ำ และใช้เรือพายลากออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร อย่างทุลักทุเล เพื่อนำมาจอดไว้ริมถนนโผงเผง-บางบาล หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบาลบ้านเลน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หลังระดับน้ำที่ท่วมสูงมานานกว่า 1 เดือน เพิ่มระดับสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง จนท่วมชั้น 2 ของตัวบ้าน ทำให้ไม่สามารถเก็บทรัพย์สินหนีน้ำได้แล้ว ต้องใช้วิธีลอยน้ำออกมาด้านนอก เพราะไม่มั่นใจว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกเท่าไร ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ต้องขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำออกมาจากบ้าน โดยน้ำท่วมระลอกแรกสูงถึงขื่อคานบ้านชั้น 1 สามารถขนทรัพย์สินออกมาด้านนอก ส่วนรถจักรยานยนต์ใช้ชักรอกไว้ใต้ถุน โดยแขวนไว้กับขื่อบ้าน แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา น้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนท่วมบ้านชั้น 2 แล้ว ทำให้ต้องหาวิธีขนย้ายรถออกมา เพราะหากปล่อยจมน้ำก็จะพังเสียหายหนัก
สำหรับ จ.อ่างทอง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 5 อำเภอ 41 ตำบล 188 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5,816 ครัวเรือน ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนที่ 2,779 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองอ่างทอง และ อ.ป่าโมก อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย