ทำเนียบรัฐบาล 2 ส.ค.-ศบค.เผยสหรัฐกำหนดแนวทางการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ชัดเจน เตือนประชาชนที่ซื้อชุดโควิดมาตรวจเอง ถ้าเสี่ยงสูงแล้วผลเป็นลบ ต้องตรวจใหม่ภายใน 3 วัน ปรับระบบติดต่อผ่านสายด่วน สปสช. 1330 เบอร์เดียวเท่านั้น
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงจำนวนวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐอเมริกามอบให้รัฐบาลไทย ว่า สหรัฐระบุเรื่องการจัดสรรไว้ชัดเจนว่าเพื่อกระตุ้นภูมิเข็มที่ 3 โดยจะจัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงชุดตรวจโควิดว่า ขณะนี้ยังเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ จึงยังห้ามจำหน่าย ขอประชาชนอย่าซื้อผ่านออนไลน์และร้านสะดวกซื้อ ทั้งนี้ ปัจจุบันอนุญาตให้ขายอยู่ 19 ยี่ห้อ ซึ่งในอนาคตจะเพิ่มขึ้นและเชื่อว่าราคาจะถูกลง โดยขอให้ประชาชนทำความเข้าใจวิธีใช้ หากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง แม้ครั้งแรกตรวจไม่พบเชื้อ จะต้องตรวจซ้ำอีกใน 3 วัน
นพ.ณัฐพงศ์ วงษ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการตรวจรักษา และคัดกรองเข้าระบบว่า ขณะนี้มี 3 ช่องทางคือประชาชนตรวจด้วยตัวเอง การตรวจเชิงรุก หรือไปตรวจที่โรงพยาบาล หากพบติดเชื้อโควิดในขณะนี้ขอให้มั่นใจว่าจะมีกระบวนการรักษารองรับและมียาที่เพียงพอ โดยทั้งสามช่องทางขณะนี้หลังตรวจพบว่าติดเชื้อแล้ว ขอให้โทรที่หมายเลข 1330 เพียงหมายเลขเดียวเท่านั้น แล้วจะมีบุคลากรและระบบรองรับไปตามขั้นตอนต่าง ๆ โดยจะคัดกรองว่าจะใช้การรักษาตัวอยู่ที่บ้าน หรือส่งไปโรงพยาบาล ตามความเหมาะสม ภายใต้หลักทันเวลา ปลอดภัย เหมาะสม
นพ.สินชัย ต่อวัฒนกิจกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. ซึ่งรับผิดชอบเครือข่าย 1330 กล่าวว่า ขณะนี้ได้เพิ่มคู่สายเป็น 3,000 คู่สาย และเพิ่มเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์อีก 500 คน เพื่อรองรับการประสานงานและการโทร ซึ่งเชื่อว่าจะมากขึ้นนับจากนี้.-สำนักข่าวไทย