ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ย้ำไม่มีเรียกรับเงินทุกกรณี

กทม. 1 ส.ค.-ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ ย้ำศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่มีเรียกรับเงินทุกกรณี พร้อมร่วมมือ 4 ค่ายมือถือ แก้ไขปัญหาทุจริตการลงทะเบียนวัคซีน โดยเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลส่วนกลาง

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดเผยว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม โดยให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมีสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานให้บริการฉีดวัคซีนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ มีจำนวนผู้รับบริการ 10,000-30,000 คนต่อวัน ที่ผ่านมามีการดำเนินการใน 2 รูปแบบหลักในสองระยะ คือ


  1. การจองคิวล่วงหน้า (Advance booking) โดยเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่าน 4 ค่ายมือถือ และการนัดล่วงหน้าขององค์กรขนาดใหญ่ อาทิ กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ เป็นหลัก ซึ่งเป็นรูปแบบหลักของการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 พฤกษภาคม ถึง 29 มิถุนายน 2564 โดยการจองคิวล่วงหน้าดังกล่าว ทางศูนย์ฯ จะได้รับข้อมูลของผู้มารับบริการและจัดทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อรับการลงทะเบียนล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ทำให้ในวันที่ผู้จองคิวมารับบริการจริงจะไม่ต้องเพิ่มข้อมูลหน้างาน เพียงแต่บริการลงทะเบียนเข้ารับบริการจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ก่อนแล้วเท่านั้น หากข้อมูลเดิมผิดพลาด เช่น เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ หรือเบอร์โทรไม่ถูกต้อง จึงจะมีการแก้ไข/เพิ่มเติม ซึ่งในแต่ละวันจะเกิดขึ้นไม่มากนัก โดยจะให้สิทธิในการแก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ IT ของกรมการแพทย์ และสถาบันโรคผิวหนังในการดำเนินการแก้ไข/เพิ่มเติมข้อมูลดังกล่าวประมาณ 10 ท่านเท่านั้น
  2. การเปิดบริการแบบ walk-in หรือ on site registration ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ที่เปิดให้ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการโดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า และต่อเนื่องมาจนถึงเดือนกรกฎาคมทั้งเดือนที่เปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. และคนท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการแบบ Walk-in ด้วยเช่นกัน โดยในช่วงนี้ ทางศูนย์ฯ จะไม่มีข้อมูลเดิมของผู้รับบริการเลย ต้องลงทะเบียนหน้างานใหม่ทั้งหมด ทำให้จำเป็นต้องเปิดสิทธิให้จิตอาสาที่มาทำหน้าที่ในส่วนการลงทะเบียนที่มีอยู่มากกว่า 200 จุดสามารถเพิ่ม/แก้ไขข้อมูลของผู้รับบริการได้ทั้งหมด โดยมีจิตอาสาหมุนเวียนและได้รับสิทธิในการดำเนินการดังกล่าวเป็นจำนวนมากจนเกิดช่องทางให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ ได้มีการเฝ้าระวังตลอดจนเก็บข้อมูลเชิงสถิติทั้งสำหรับการทำงานที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานในแต่ละวัน ตลอดจนตรวจสอบภาระงานที่ต้องทำในอนาคตอยู่เสมอ จึงทำให้ตรวจพบความผิดปกติในการนัดหมายล่วงหน้าที่คาดว่าอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น โดยได้ตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ที่พบพิรุธหลักๆ 2 ประการคือ ประการแรก พบว่ามีจำนวนการนัดล่วงหน้าสูงกว่าปกติที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ได้นำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล โดยเริ่มพบตัวเลขผิดปกติในหลักสิบในช่วงวันที่ 20-27 กรกฎาคม และเพิ่มจำนวนนัดมากกว่าปกติเป็นหลักพันในวันที่ 28-31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเปิดรับการบริการแบบ walk-in ส่วนประการที่ 2 เป็นความผิดปกติของช่วงเวลาในการ upload ข้อมูลการนัดล่วงหน้าเข้าสู่ระบบ โดยพบว่า ในช่วงสัปดาห์ดังกล่าวซึ่งทางศูนย์ฯ ได้งดรับการนัดล่วงหน้าจากองค์กรภายนอกเกือบทั้งหมด(ยกเว้นบางหน่วยงาน เช่น การนัดของกระทรวงต่างประเทศซึ่งได้ส่งนัดหมายการฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุต่างชาติวันละประมาณ 400 คนเท่านั้น) และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเวลา 18.00 น. ของแต่ละวันแล้ว แต่พบว่ายังมี Upload ส่งข้อมูลนัดหมายล่วงหน้าอีกในเวลาหลัง 22.00 น.ของทุกวันอยู่อีก ประกอบกับทางศูนย์ฯ ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการซื้อขายเพื่อรับคิวการฉีดวัคซีนจากประชาชนเป็นจำนวนมากพอสมควร จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่า มีการเพิ่มจำนวนนัดล่วงหน้าโดยทุจริตจาก Users 19 login ซึ่งอยู่ในกลุ่มจิตอาสาที่ได้รับการเพิ่มสิทธิในการนำเข้า/แก้ไขข้อมูลผู้รับบริการในช่วงเปิดบริการแบบ walk-in

ทางศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จึงได้วางแผนจับกุมเพื่อสืบให้ได้ถึงผู้กระทำผิดรายใหญ่/ทั้งหมดนี้ โดยดำเนินการในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่มีคิวนัดล่วงหน้าเพิ่มมากกว่าปกติกว่า 2,000 คน ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์ขุดบ่อล่อปลาให้ผู้ที่ซื้อคิวโดยทุจริตเหล่านี้เดินทางมารับบริการที่ศูนย์ฯ เมื่อตรวจเช็คแล้วว่าเริ่มมีการลงทะเบียนไปประมาณ 600 คน จากจำนวน 2000 กว่าคนนั้น ทางศูนย์ฯ จึงแจ้งยกเลิกคิวการฉีดของทั้งสองพันกว่าคนนั้นทั้งหมด เพื่อบีบให้คนเหล่านี้แสดงตัวขอความช่วยเหลือ/ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ โดยได้จัดสถานที่ไว้เป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งให้ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้เข้าไปชี้แจง/ขอความร่วมมือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของตัวการผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตในครั้งนี้ โดยสามารถรวบรวมผู้ทำนัดโดยทุจริตนี้ได้มากกว่า 300 คนซึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีต่อไปอย่างยิ่ง โดยข้อมูลจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า การซื้อคิวนัดดังกล่าว มีทั้งซื้อเอง ญาติหรือนายจ้างซื้อให้ และมีการจ่ายเงินทั้งแบบเงินสดและการโอนเงินในอัตรา 400-1200 บาทต่อคิว ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์ฯ ได้รับข้อมูลรายชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวแล้ว จึงได้ให้นิติกรกรมการแพทย์เป็นผู้แทนในการดำเนินการแจ้งความต่อตำรวจ สน.นพวงศ์ ในฐานะผู้เสียหายต่อไปแล้ว


ในขณะนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนจิตอาสาทั้ง 19 คนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ขอความร่วมมือกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อสอบสวนหาหลักฐานเชิงลึกและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เพื่อเป็นการแก้ไข/ป้องกันการเกิดทุจริตดังกล่าวในอนาคต ทางศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ

  1. ได้ยกเลิกนัดล่วงหน้าที่ผิดปกติซึ่งตรวจพบระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม ทั้งหมด
  2. ยกเลิก login-users เดิมทั้งหมดและให้สิทธิในการเพิ่มเติม/แก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ IT ภายในของกรมการแพทย์และสถาบันโรคผิวหนังเท่านั้น
  3. ปิดระบบทำการทั้งหมดในช่วงกลางคืนเพื่อป้องกันการ vpn เข้ามาทำการนอกเวลางาน
  4. ตรวจสอบข้อมูลความผิดปกติของการนัดล่วงหน้าและการนำเข้าข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้ได้ยกเลิกการนัดผิดปกติเพิ่มเติมถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2564 แล้ว

ทางกรมการแพทย์และศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ขอขอบคุณจิตอาสาตลอดจนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 4 แห่ง (Operator) ที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด และพร้อมร่วมมือกันต่อไป โดยขอย้ำกับประชาชนว่าการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่มีการเรียกรับเงินทุกกรณี และหากจะมีเบาะแสการทุจริตใดๆ ก็ตาม โปรดแจ้งให้ทางศูนย์ฯ ทราบเพื่อที่จะได้ดำเนินการจับกุมและแก้ไขต่อไปดังเช่นกรณีนี้ จะเป็นพระคุณยิ่ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้