สธ.30 เม.ย.-“อนุทิน” ย้ำเปิดทางให้บริษัทวัคซีนทุกยี่ห้อขึ้นทะเบียนกับ อย.หลังหารือซิโนฟาร์ม พร้อมแจงไทยมีวัคซีนทุกยี่ห้อ แต่การฉีดอิงเกณฑ์อายุเพื่อความเหมาะสม ปลอดภัยและประสิทธิภาพ ตามเป็นคำแนะนำของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกรพทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังหารือกับบริษัท ซิโนฟาร์ม เรื่องวัคซีนโควิด-19 ว่า ก็เป็นการหารือเพื่อยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยินดีสนับสนุนการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดทุกยี่ห้อ โดยในส่วนของซิโนฟาร์มยังขาดเรื่องของเอกสาร ซึ่งหากยื่นเรื่องมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ครบ ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการเจรจาได้
พร้อมย้ำวัคซีนโควิดในไทยเสรีไม่ได้มีการเลือกยี่ห้อ โดยขณะนี้ไทยมีวัคซีนโควิดเข้ามาหลากหลายมากขึ้น หลังจากหลายบริษัทเริ่มผลิตวัคซีนและมีมากพอที่จะจำหน่ายและติดต่อมาขึ้นทะเบียนกับไทย ซึ่งการฉีดวัคซีนจะจัดสรรตามกลุ่มอายุและจับคู่กับวัคซีนและละยี่ห้อ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการวิชาการที่ดูแลด้านความปลอดภัยในการใช้วัคซีนพิจารณา อ้างอิงถึงประสิทธิ์ภาพและความปลอดภัย เช่นเด็กอายุ 12ปี ต้องได้รับวัคซีนของไฟเซอร์. หรือคนสูงอายุ60 ปีขึ้นไปต้องได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา หรืออายุ 18-59 ปี ได้รับวัคซีนจากซิโนแวค
นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนโควิดหลักของไทยยังคงเป็นแอสตร้าเซเนก้า. และคาดว่าจะทยอยมาในเดือนมิ.ย. และสามารถฉีดให้กับประชาชนได้ พร้อมกันยังกล่าวว่าวันนี้เปิดศูนย์แรกรับที่อาคารนิมิบุตร วันแรกเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เรื่องการรอเตียงในผู้ป่วยติดเชื้อเริ่มแรก เนื่องจกาปัญหาเตียงเกิดขึ้นเพียงที่เดียว คือกรุงเทพมหานคร ที่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างการบริหารจัดการ คนจำนวนมาก ซึ่งทางหน่วยงานอย่างกทม.อาจแก้ไขดูแลไม่ทั่วถึง ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้เข้ามาช่วยเหลือประสานให้แต่ต้องติดต่อเข้ามา ในอนาคตต้ังเป้าให้เกิดศูนย์แรกรับใน 4 มุมเมือง.-สำนักข่าวไทย