ติดเชื้อลดลง แต่ยังต้องดูแลเข้ม

ทำเนียบรัฐบาล 19 เม.ย.- ศบค.เผยตัวเลขติดเชื้อวันนี้ 1,390 ราย แม้จะลดลง แต่ยังวางใจไม่ได้ ย้ำทุกคนต้องดูแลตัวเองตามมาตรการ ศธ.เคร่งครัด ชี้ถ้าไม่ร่วมมือกัน กำลังเจ้าหน้าที่อาจไม่พอ


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้(19 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 1,390 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 43,742 ราย หายป่วยแล้ว 28,787 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 14,851 รายเสียชีวิตเพิ่ม 3 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 104 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 19 เมษายน 2564 จำนวน 14,879 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 1,390 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 1,384 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,058 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 326 ราย เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 6 ราย กลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย อินเดีย 1 ราย บาห์เรน 2 ราย มาเลเซีย 2 ราย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็นชาย อายุ 56 ปี อาชีพ พนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิง กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองตีบ กลับบ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน วันที่ 13 เมษายน มีอาการไอ นอนพักอยู่ที่บ้าน วันที่ 17 เมษายน มีอาการเหนื่อยมากขึ้น หายใจติดขัด ติดต่อรถพยาบาลมารับ อาการแย่ลง เจ้าหน้าที่ทำการฟื้นคืนชีพไม่ดีขึ้น ผลการตรวจพบเชื้อโควิด19 และเสียชีวิตในวันที่ 18 เมษายน เวลา 00.31 น.


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า รายที่ 2 ผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 84 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย พักอยู่ที่กรุงเทพฯ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า คือ หลานชายที่ทำงานในสถานบันเทิง รัชดา วันที่ 8 เมษายน มีอาการไข้ ไอ เหนื่อยหอบ ผลเอกซเรย์เป็นปอดอักเสบรุนแรง แพทย์พิจารณาใส่ท่อช่วยหายใจ วันที่ 10 เมษายน ผลยืนยันพบเชื้อโควิค19, วันที่ 16 เมษายน ความดันโลหิตตก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนรายสุดท้าย เป็นเพศหญิง อายุ 61 ปี อาชีพค้าขาย เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไทรอยด์ ขณะป่วยอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยวันที่ 6 เมษายน ร่วมรับประทานอาหารกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าที่ ติดจากสถานบันเทิงหัวหิน วันที่ 8 เมษายน ตรวจหาเชื้อ covid19 เนื่องจากได้รับแจ้งว่าเพื่อนพบเชื้อ วันที่ 10 เมษายน ผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 11 เมษายน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล วันที่ 18 เมษายน มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ภาพรวมตั้งแต่วันที่ 4-10 เมษายน ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ทั่วประเทศเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น 1-10 ราย ใน 62 จังหวัด แต่จากนั้นช่วงวันที่ 11-17 เมษายน พบว่าหลายจังหวัดเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเกิน 10 ราย และมีหลายจังหวัดมีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเกิน 50 ราย หลายพื้นที่เป็นการติดเชื้อที่เชื่อมโยงมาจากจังหวัดอื่น อาทิ จากไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อจากจังหวัดสระแก้ว เป็นชายอายุ 41 ปี เจ้าของธุรกิจ ทำงานในสถานบันเทิง วันที่ 27 มีนาคม ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อกับเพื่อน 3 คน และยังเดินทางไปพบปะผู้คนอีกหลายแห่ง รวมทั้งยังแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัว ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 เมษายน และพบว่ามีผู้สัมผัสใกล้ชิด ยืนยันติดเชื้อแล้ว 26 ราย


“การปรับระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคของแต่ละพื้นที่เพื่อลดการเคลื่อนย้าย ลดการเดินทาง ที่กำหนดระยะเวลาตั้งแต่ 23.00 น.- 04:00 น. จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อได้ ขณะที่กระทรวงคมนาคมพยายามจัดระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการงดการเดินทาง งดการเคลื่อนย้าย และขอความร่วมมือสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชนให้พนักงาน work from home เต็มรูปแบบ ซึ่งหากทำได้ เชื่อว่า 2 สัปดาห์นับจากนี้จะลดอัตราการติดเชื้อลงได้” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนกิจการและกิจกรรมที่ยังมีความจำเป็นยังสามารถทำได้ แต่ขอความร่วมมือให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข หากกิจกรรมใดสามารถชะลอได้ ขอให้เลื่อนออกไปก่อน โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก แม้วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ มาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ยังมีความจำเป็น รวมทั้งลดความขัดแย้งเรื่องการกล่าวโทษผู้ติดเชื้อ

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 141.9 ล้านราย เสียชีวิตแล้วทั่วโลก 3 ล้านคน สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 32.4 ล้านราย อินเดีย 15 ล้านราย ซึ่งเพียงวันเดียวผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 275,306 ราย บราซิล 13.9 ล้านราย ฝรั่งเศส 5.2 ล้านราย รัสเซีย 4.7 ล้านราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 109

ส่วนที่มีข่าวว่าผู้ป่วยหลายคนยังไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากเตียงไม่เพียงพอ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จากข้อมูลวันที่ 1-8 เมษายน มีบุคลากรทางการแพทย์ 146 ราย ส่วนใหญ่เป็นแพทย์และพยาบาล 33 รายติดเชื้อจากการทำงาน เพราะมีการปกปิดไทม์ไลน์ นอกจากนั้นติดเชื้อจากคนใกล้ชิดในครอบครัว ซึ่งหากยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละ 1,000 คน เป็นเวลา 10 วัน อาจไม่มีเตียงเพียงพอสำหรับคนไข้ รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งต้องเตรียมการล่วงหน้า

“ถ้าสถานประกอบการและประชาชน ไม่ให้ความร่วมมือ บุคลากรด่านหน้าที่กำลังทำหน้าที่อยู่คงไม่สามารถรับมือไหว จึงอยากขอความร่วมมือให้ทุกคนร่วมมือกัน และดูแลสุขภาพ สวมหน้ากาก ล้างมือ อย่างเคร่งครัด” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า